เอเจนซีส์ – ตำรวจทาจิกิสถานออกแถลงการณ์ความสำเร็จ สั่งปิดร้านค้าขายผ้าคลุมศรีษะสตรีมุสลิมกว่า 160 ร้าน สั่งจับชายร่วม 13,000 คนโกนหนวดเครา กวาดล้างแนวคิดอิสลามิสต์สุดโต่งจากต่างประเทศที่แทรกซึมเข้ามา
อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์ รายงานวันนี้( 21 มค.)ว่า บาห์รอม ชาริฟโซดา(Bahrom Sharifzoda) หัวหน้าตำรวจระดับภูมิภาคคาธลอน (Khathlon) ทางตะวันตกเฉียงใต้ของประเทศ แถลงในวันพุธ( 20 มค.)ว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจทาจิกิสถานประสบความสำเร็จสามารถหว่านล้อมให้เด็กหญิง และหญิงชาวทาจิกิสถานจำนวนไม่ต่ำกว่า 1,700 คน ยอมที่จะไม่สวมผ้าคลุมศรีษะตามแบบประเพณีมุสลิมที่เคร่งครัดได้สำเร็จ สื่อกาตาร์ชี้ว่า ทากิจิสถานเป็นประเทศมุสลิมที่ตั้งอยู่ในเอเชียกลาง
พบว่าการเคลื่อนไหวครั้งนี้เป็นไปตามนโยบายของประเทศที่ต้องการกวาดล้างแนวคิดอิสลามิสต์สุดโต่งจากต่างประเทศที่แทรกซึมเข้ามา
ทั้งนี้พบว่าผู้นำในทากิจิสถานได้พยายามต่อต้านการแทรกซึมแนวคิดเหล่านี้เป็นเวลานานมาแล้ว ซึ่งคาดว่าจะถูกเผยแพร่ออกมาจากอัฟกานิสถาน ประเทศเพื่อนบ้านที่มีพรมแดนติดกัน
อัลญะซีเราะฮ์รายงานเพิ่มเติมต่อว่า และในสัปดาห์ที่ผ่านมา รัฐสภาทาจิกิสถานได้ลงคะแนนโหวตห้ามใช้ชื่อภาษาอาระบิกที่เป็นชื่อต่างชาติ รวมไปถึงห้ามการแต่งงานในหมู่ญาติใกล้ชิดทางสายเลือด
และคาดกันว่ากฎหมายเหล่านี้จะได้รับการลงนามบังคับใช้ภายหลังโดยประธานาธิบดีทาจิกิสถาน เอโมมาลี ราห์มอน (Emomali Rahmon) ที่พยายามอย่างหนักในการรณรงค์แนวคิดการเมืองที่ไม่อิงกับศาสนา และรวมไปถึงการต่อสู้กับแนวคิดและความเชื่อแบบอิสลามิสต์ที่ตัวเขามองว่าเป็นภัยต่อความมั่นคงของทาจิกิสถาน ลิเบอร์ตี เรดิโอ รายงาน
และสื่อกาตาร์รายงานเพิ่มเติมว่า ทั้งนี้ในเดือนกันยายนปีที่ผ่านมา ศาลสูงสุดทากิจิสถานได้ออกคำสั่งห้ามการจดทะเบียนพรรคการเมืองอิสลามิก เดอะ อิสลามิก เรเนซองซ์ ปาร์ตี ออฟ ทาจิกิสถาน(The Islamic Renaissance Party of Tajikistan) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองอิงศาสนาพรรคเดียวในประเทศ