เอพี/เอเอฟพี - รัฐบาลซีเรียแถลงในวันนี้ (17 ม.ค.) ว่า กลุ่มหัวรุนแรง “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ได้ก่อเหตุสังหารหมู่อย่างสยดสยองผู้คน 300 คนในเมืองเดอีร์ เอซซอร์ ทางภาคตะวันออกของประเทศ ระหว่างการเข้าโจมตีหลายระลอกเมื่อวันเสาร์ (16) ซึ่งพวกสุดโต่งเหล่านี้สามารถรุกคืบหน้ายึดพื้นที่ส่วนหนึ่งที่มีการแย่งชิงกันอยู่ ขณะเดียวกัน ทางกลุ่มนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านก็อ้างว่าพวกไอเอสยังได้จับตัวพลเรือนไปอีกอย่างน้อย 400 คน ซึ่งมีทั้งผู้หญิงและเด็กๆ
สำนักข่าวซานา ของทางการรัฐบาลซีเรียรายงานว่า ผู้ที่ถูกไอเอสสังหารไปอย่างสยดสยอง 300 รายในระหว่างการต่อสู้ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อวันเสาร์ (16) ส่วนใหญ่เป็นคนชรา, ผู้หญิง และเด็กๆ ส่วนทาง “กลุ่มสังเกตการณ์ชาวซีเรียเพื่อสิทธิมนุษยชน” ระบุว่า เหยื่อที่ถูกฆ่าจำนวนมากเป็นทหารกองทัพรัฐบาลซีเรียและกองกำลังอาวุธท้องถิ่นที่เข้าข้างรัฐบาล ตลอดจนครอบครัวของพวกเขา
การสังหารโหดคราวนี้ถือเป็นครั้งเลวร้ายที่สุดครั้งหนึ่งที่กระทำโดยกลุ่มไอเอส ซึ่งเวลานี้สามารถควบคุมพื้นที่ผืนใหญ่ๆ หลายบริเวณในซีเรียและอิรัก และได้สังหารผู้คนไปเป็นหมื่นเป็นแสนคนแล้วในประเทศทั้งสอง
กลุ่มสังเกตการณ์ชาวซีเรียฯ ซึ่งตั้งฐานอยู่ในอังกฤษ และคอยจดบันทึกความเคลื่อนไหวของทุกๆ ฝ่ายในสงครามซีเรีย โดยอาศัยการรายงานของพวกนักเคลื่อนไหวฝ่ายค้านรัฐบาลซึ่งประจำอยู่ในพื้นที่ต่างๆ แถลงแจกแจงในคืนวันเสาร์ (16) ว่า ผู้ที่ถูกสังหารในเมืองเดอีร์ เอซซอร์ มีอย่างน้อยที่สุด 135 ราย โดยราว 80 รายเป็นทหารและนักรบกองกำลังท้องถิ่นที่โปรรัฐบาล ส่วนที่เหลือเป็นพลเรือน ทั้งนี้ ผู้ถูกฆ่าจำนวนมากถูกยิงตายแบบการประหารชีวิตหรือไม่ก็ถูกฆ่าตัดศีรษะ
ขณะนี้กลุ่มไอเอสสามารถควบคุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดเดอีร์ เอซซอร์ และพื้นที่จำนวนมากของเมืองเอกของจังหวัดนี้ ซึ่งก็ใช้ชื่อว่าเดอีร์ เอซซอร์ เช่นเดียวกัน ส่วนฝ่ายรัฐบาลยังคงควบคุมเขตหลายเขตทางส่วนเหนือของเมืองนี้ ตลอดจนสนามบินทหารที่ตั้งอยู่ใกล้ๆ จังหวัดเดอีร์ เอซซอร์ นั้นเป็นพื้นที่ซึ่งมีน้ำมันดิบอุดมสมบูรณ์ และอยู่ติดกับอิรัก สำหรับการบาดเจ็บล้มตายส่วนใหญ่ในวันเสาร์ (16) เกิดขึ้นในพื้นที่เขตบากาลิเยห์ ซึ่งอยู่นอกเมืองเดอีร์ เอซซอร์
สถานีโทรทัศน์อัล-มายาดีน ซึ่งมีฐานอยู่ในเลบานอน และใกล้ชิดกับรัฐบาลซีเรีย ก็รายงานเรื่องมีเหตุสังหารหมู่เช่นกัน โดยระบุว่าพวกไอเอสได้เข่นฆ่าประชาชนไปหลายสิบคน ซึ่งมีทั้งผู้หญิงและเด็ก แล้วโยนศพของพวกเขาลงสู่แม่น้ำยูเฟรติส นอกจากนั้นไอเอสยังจับพลเรือนกว่า 400 คนไปเป็นตัวประกันด้วย
ทั้งนี้ กลุ่มสังเกตการณ์ซีเรียฯ ได้ออกคำแถลงระบุเช่นกันว่า พลเรือนอย่างน้อย 400 คน ซึ่งถูกไอเอสลักพาตัวไปเหล่านี้ เป็นชาวบ้านของเขตบากาลิเยห์ ซึ่งเป็นย่านชานเมืองเดอีร์ เอซซอร์ ตลอดจนชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ทางด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง
รามี อับเดล ราห์มาน ประธานของกลุ่มสังเกตการณ์ชาวซีเรียฯ ระบุว่า พลเรือนที่ถูกจับตัวไปเหล่านี้ทั้งหมดเป็นชาวมุสลิมนิกายสุหนี่ มีทั้งผู้หญิง, เด็กๆ และสมาชิกในครอบครัวของพวกนักรบโปรรัฐบาลซีเรีย
เขากล่าวต่อไปว่า คนเหล่านี้ถูกขนส่งต่อไปยังพื้นที่ต่างๆ ซึ่งอยู่ใต้การควบคุมของไอเอส ในบริเวณด้านตะวันตกของจังหวัดเดอีร์ อัสซอร์ และไปยังพื้นที่พรมแดนติดต่อกับจังหวัดรักเกาะฮ์ ในภาคตะวันตกเฉียงเหนือของซีเรีย
สำหรับสำนักข่าวอาอามัก ซึ่งเป็นองค์กรที่อยู่ในเครือข่ายไอเอส รายงานว่า ทางไอเอสได้แบ่งกำลังเป็นหลายสาย บุกเข้าโจมตีเมืองเดอีร์ เอซซอร์ อย่างขนานใหญ่ โดยเปิดฉากด้วยการใช้มือระเบิดฆ่าตัวตาย ต่อมาสำนักข่าวแห่งนี้รายงานในวันอาทิตย์ (17) ว่า ไอเอสสามารถขยายพื้นที่ควบคุมของตนในบริเวณด้านตะวันตกและตะวันตกเฉียงเหนือของเดอีร์ เอซซอร์ พร้อมกับบอกด้วยว่ามีกำลังฝ่ายรัฐบาลซีเรียถูกสังหารไป 110 ราย และถูกจับกุมอีกอย่างน้อย 5 คน
สำนักข่าวอาอามักอ้างด้วยว่า จากการสู้รบกันคราวนี้ ไอเอสสามารถเข้าควบคุมเขตบากาลิเยห์ และพื้นที่โดยรอบเอาไว้ได้
ขณะที่ตามรายงานของกลุ่มสังเกตการณ์ชาวซีเรีย การรุกคืบคราวนี้ทำให้ไอเอสควบคุมเมืองเดอีร์ อัซซอร์ ได้ประมาณ 60% ทั้งนี้ ไอเอสกับกองกำลังอาวุธฝ่ายรัฐบาลซีเรียยังทำการสู้รบกันอยู่เป็นระยะ ต่อเนื่องมาถึงวันอาทิตย์ (17) ในบริเวณด้านตะวันตกเฉียงเหนือของเมือง
กลุ่มนี้บอกด้วยว่า เครื่องบินรบของรัสเซียได้ออกปฏิบัติการโจมตีทางอากาศในคืนวันเสาร์ (16) ที่ผ่านมา เพื่อสนับสนุนนักรบฝ่ายรัฐบาลซีเรียในเขตบากาลิเยห์
ฝ่ายรัฐบาลซีเรียยกกำลังบุกอะเล็ปโป
ไอเอสยกกำลังเข้าโจมตีเดอีร์ เอซซอร์ คราวนี้บังเกิดขึ้นขณะที่รัฐบาลซีเรียพยายามรุกคืบหน้าในจังหวัดอะเล็ปโป ซึ่งอยู่ทางภาคเหนือของประเทศ โดยฉวยใช้ประโยชน์จากการรณรงค์โจมตีทางอากาศของรัสเซีย ซึ่งเริ่มต้นมาตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน ปีที่แล้ว
ทางด้านเมืองรักเกาะฮ์ ซึ่งพวกไอเอสประกาศให้เป็นเมืองหลวงของตน ก็ถูกโจมตีทางอากาศบ่อยครั้ง ทั้งจากกองกำลังพันธมิตรนำโดยสหรัฐฯ, กองทัพอากาศซีเรีย และเครื่องบินรบของรัสเซีย
ประมาณการกันว่าสงครามในซีเรียได้สังหารผลาญชีวิตผู้คนไปมากกว่า 260,000 รายแล้ว และบังคับให้ประชาชนอีกเป็นล้านๆ ต้องอพยพหลบหนีออกจากบ้านเกิดของพวกเขาเอง
