เอเจนซีส์ - รัฐบาลอินโดนีเซียสั่งทหารและตำรวจคุมเข้มความปลอดภัยทั่วประเทศ หลังเกิดเหตุระเบิดที่ใจกลางกรุงจาการ์ตาซึ่งทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 7 รายเมื่อช่วงสายของวันพฤหัสบดี (14 ม.ค.) ขณะที่ตำรวจกำลังเร่งสืบประวัติคนร้ายเพื่อหาความเชื่อมโยงกับเครือข่ายรัฐอิสลาม(ไอเอส) ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่เชื่อว่าอยู่เบื้องหลังโศกนาฏกรรมสะเทือนกรุงครั้งนี้
เหตุระเบิดซึ่งติดตามมาด้วยการยิงปะทะระหว่างกลุ่มคนร้ายกับตำรวจบนถนนสายสำคัญ ซึ่งเป็นที่ตั้งห้างสรรพสินค้า สถานทูต และสำนักงานสหประชาชาติ เชื่อว่าเป็นฝีมือสมาชิกไอเอสจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ซึ่งผ่านการเดินทางไปสู้รบร่วมกับไอเอสในอิรักและซีเรียมาแล้ว
“เราได้ประกาศเฝ้าระวังการก่อการร้ายทั่วอินโดนีเซีย” อันตัน ชาร์ลียัน โฆษกตำรวจแห่งชาติอินโดนีเซีย ให้สัมภาษณ์
“สำนักงานตำรวจแห่งชาติมีมาตรการเฝ้าระวังขั้นสูงสุด โดยเฉพาะตามสถานที่ซึ่งคาดว่าจะเป็นเป้าหมายของคนร้าย เช่น สถานีตำรวจ สำนักงานของรัฐ และสถานทูต โดยทางกองทัพก็ได้ร่วมสนับสนุนด้วย”
ชาร์ลียัน ไม่ได้อธิบายชัดเจนถึงบทบาทของกองทัพ แต่ผู้สื่อข่าวเอเอฟพีรายงานว่า พบเห็นรถบรรทุกซึ่งมีทหารติดอาวุธเกือบ 10 คันแล่นไปตามท้องถนนใจกลางกรุงจาการ์ตา ส่วนพื้นที่รอบนอกก็มีมาตรการรักษาความปลอดภัยเข้มข้นกว่าปกติ โดยมีตำรวจสวมเสื้อเกราะกันกระสุนคอยเดินตรวจตรา
ตำรวจอินโดนีเซียเกือบ 10 นายถูกส่งไปคุ้มกันสถานทูตฝรั่งเศส ซึ่งตั้งอยู่ใกล้ๆ จุดที่เกิดระเบิดบนถนน เอ็ม. เอช. ธัมริน
ชาร์ลียัน ระบุว่า ตำรวจจะเข้าตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยในวันนี้(15) เพื่อหาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกลุ่มคนร้ายที่ก่อเหตุนองเลือดใจกลางเมืองหลวง ขณะที่ มูฮัมมัด อิกบัล โฆษกตำรวจจาการ์ตา บอกกับเอเอฟพีว่า ทางการอยู่ระหว่างสืบประวัติคนร้ายที่เสียชีวิตทั้ง 5 คน รวมถึงบุคคลอื่นๆ ที่อาจมีส่วนร่วมในแผนโจมตีครั้งนี้
เหตุระเบิดและยิงต่อสู้ซึ่งเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 10.00 น. เศษตามเวลาท้องถิ่น ใกล้กับห้างซารีนาห์ (Sarinah) ซึ่งเป็นศูนย์การค้าเก่าแก่ที่สุดในกรุงจาการ์ตา ทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 7 ราย เป็นคนร้าย 5 คน ชาวแคนาดา 1 คนและชาวอินโดนีเซียอีก 1 คน นอกจากนี้ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกราวๆ 20 คน
ประธานาธิบดี โจโค วิโดโด แห่งอินโดนีเซีย ได้ออกมาประณามการก่อเหตุครั้งนี้ว่าเป็น “การก่อการร้าย”
ตำรวจอิเหนาระบุว่า กลุ่มคนร้ายทั้ง 5 ประกอบด้วยมือระเบิดฆ่าตัวตาย 3 คน ซึ่งมีเจตนาโจมตีร้านกาแฟ “สตาร์บักส์” ที่ตั้งอยู่ใกล้ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
คนร้ายซึ่งใช้ปืนพกเป็นอาวุธได้จับชาวชาวแอลจีเรีย 1 คน และชาวแคนาดาอีก 1 คนเป็นตัวประกัน เหยื่อชาวแอลจีเรียถูกยิงบาดเจ็บแต่ยังรอดมาได้ ส่วนตัวประกันชาวแคนาดาถูกยิงเสียชีวิต
คนร้ายอีก 2 คนได้ขับรถจักรยานยนต์ไปยังป้อมตำรวจ และกดระเบิดฆ่าตัวตาย จนทำให้ตำรวจ 4 นายบาดเจ็บสาหัส
ล่าสุด ตำรวจอินโดนีเซียได้ระบุชื่อ “บาห์รุม นาอีม” เป็นผู้ต้องสงสัยบงการโจมตีกรุงจาการ์ตา
นาอีม เป็นหนึ่งในสมาชิกรุ่นก่อตั้งของกลุ่ม “กอตีบะห์ นูซันตารา” ซึ่งเป็นนักรบจากเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ที่ร่วมต่อสู้กับไอเอสในซีเรีย ชายหัวรุนแรงผู้นี้ถูกทางการอิเหนาเพ่งเล็งมาตั้งแต่ปี 2010 เป็นอย่างน้อย และมีสายสัมพันธ์ใกล้ชิดกับ อบู วัรดะห์ ซันโตโซ หัวหน้ากลุ่มมุญาฮิดีนอินโดนีเซียตะวันออก (MIT) ที่ประกาศสวามิภักดิ์ต่อไอเอส
ตำรวจเชื่อว่า นาอีม ทำหน้าที่เป็นตัวเชื่อมระหว่างเอ็มไอทีซึ่งมีฐานบนเกาะสุลาเวสี กับไอเอสในตะวันออกกลาง
นักวิเคราะห์ด้านก่อการร้ายเตือนว่า แม้ กอตีบะห์ นูซันตารา จะมีสมาชิกส่วนใหญ่เป็นชาวอินโดนีเซีย แต่ก็ยังมีนักรบจากมาเลเซียและชาติอื่นๆ ในภูมิภาครวมอยู่ด้วย และเป็นที่หวั่นเกรงกันมานานกว่า 1 ปีแล้วว่า นักรบหัวรุนแรงกลุ่มนี้อาจหวนกลับมาวางแผนโจมตีในบ้านเกิด
ไอเอสได้ประกาศความรับผิดชอบต่อเหตุระเบิดนองเลือดที่กรุงจาการ์ตาเมื่อวานนี้ (14) โดยระบุว่า เป็นฝีมือ “ทหาร” ของพวกเขาที่มุ่งทำลายพลเมืองจาก “ชาติพันธมิตรครูเสด” ซึ่งหมายถึงสหรัฐฯ และพันธมิตรตะวันตกที่ทำสงครามกับไอเอสอยู่ในตะวันออกกลาง