เอเอฟพี - เมืองเล็กๆ แห่งหนึ่งของเยอรมนีเมื่อวันพฤหัสบดี (14 ม.ค.) ส่งรถบัสที่บรรทุกผู้ลี้ภัยชาวซีเรียมุ่งหน้าสู่สำนักนายกรัฐมนตรีของนางอังเกลา แมร์เคิล เพื่อประท้วงนโยบายผู้อพยพของเธอ ที่ก่อความทุกข์ยากแก่ชาวบ้านท้องถิ่น
ปีเตอร์ เดรเออร์ หัวหน้าเขตลันด์สฮูท ในรัฐบาวาเรีย ผู้อยู่เบื้องหลังการเดินทางดังกล่าว บอกว่า พื้นที่ชนบทของเขาต้องตกอยู่ในความตึงเครียดจากการไหลบ่าเข้าสู่เยอรมนีของผู้ลี้ภัยและผู้อพยพที่ไม่เป็นระเบียบกว่า 1.1 ล้านเมื่อปีที่แล้ว
เดรเออร์บอกกับสถานีโทรทัศน์เอ็น 24 ว่า เขาได้รับคำร้องเรียนจากชาวบ้านท้องถิ่นว่า “ถึงเวลาแล้วที่ต้องกำหนดข้อจำกัด เราพยายามช่วยเหลืออยู่ร่วมกับคนเหล่านี้ แต่มันคงไม่ได้ผลหากว่าในปีนี้เราต้องเผชิญระลอกคลื่นผู้อพยพอีก 1 ล้านคนหรือมากกว่านั้น”
“นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมมันจึงถึงเวลาที่ต้องแสดงจุดยืน เพื่อนักการเมืองจะได้เปลี่ยนท่าที” เขากล่าว พร้อมเผยว่าเขาเคยเตือนนางแมร์เคิลแล้วเกี่ยวกับแผนพาผู้อพยพเดินทางไปยังสำนักงานของเธอระหว่างพูดคุยกันทางโทรศัพท์เมื่อเดือนตุลาคม ปีก่อน และได้แจ้งเรื่องนี้อีกครั้งในวันพุธ (13 ม.ค.)
รถบัสบรรทุกผู้ลี้ภัย 31 คนออกจากเมืองลันด์สฮูท ทางใต้ของประเทศ ตอนประมาณ 09.00 น. (ตรงกับเมืองไทย 16.00 น.) สำหรับเดินทางเป็นระยะทาง 570 กิโลเมตรมุ่งหน้าสู่เมืองหลวงและคาดหมายว่าน่าจะถึงอาคารสำนักนายกรัฐมนตรีในช่วงบ่าย
เดิมทีรัฐบาลท้องถิ่นเผยในถ้อยแถลงว่าจะมีผู้ลี้ภัยเดินทางไปกับรถบัส 51 คน แต่ต่อมามี 20 คนที่เกิดเปลี่ยนใจในตอนเช้า ขณะที่ เดรเออร์ บอกว่าชาวซีเรีย 31 คนที่เหลือ ซึ่งทั้งหมดได้รับอนุมัติสถานะผู้ลี้ภัยแล้ว ออกเดินทางไปด้วยความสมัครใจ
อย่างไรก็ตาม หัวหน้ากลุ่ม Pro Asyl ซึ่งสนับสนุนผู้ลี้ภัยในเยอรมนนี วิพากษ์วิจารณ์การเดินทางดังกล่าว โดยระบุว่า “คนเหล่านี้กำลังถูกใช้แสวงหาผลประโยชน์เพื่อในวัตถุประสงค์กระพือข่าวสาร นี่มันไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา การแสดงนี้เป็นการนำเอาชะตากรรมของผู้ลี้ภัยมาใช้ในทางที่ผิด ด้วยหวังส่งสารว่าเราจำเป็นต้องปิดชายแดน”
เดรเออร์บอกว่า “ยังไม่เห็นแนวโน้มจุดสิ้นสุดของคลื่นผู้ลี้ภัย เสถียรภาพของประเทศของเราซึ่งให้ที่พักอาศัยแก่พวกเขากำลังอยู่ในทิศทางเสื่อมทรามลงอย่างรวดเร็ว และผมไม่ต้องการเห็นการสร้างอพาร์ตเมนต์ใหม่สำหรับผู้อพยพ”
เจ้าหน้าที่รัฐบาลท้องถิ่นเผยว่า ชาวซีเรียบางส่วนที่ขึ้นรถบัสมายังเบอร์ลิน มีเพื่อนอยู่ในเมืองหลวงและต้องการพำนักอยู่ที่นี่ แต่ทั้งหมดก็จะได้รับอนุญาตให้เดินทางกลับรัฐบาวาเรียอย่างอิสระ พร้อมระบุว่า “เราไม่ต้องการทิ้งใครไว้บนถนน”
ทั้งนี้ ชาวซีเรียที่เข้าเมืองมาอย่างถูกกฎหมายได้รับอนุญาตให้พำนักที่ไหนก็ได้ในเยอรมนี แต่จำเป็นต้องหาที่พักให้ได้ ซึ่งนั่นเป็นเรื่องยากลำบากในเขตลันด์สฮูท
นางแมร์เคิลได้รับการยกย่องที่เปิดประตูเยอรมนีต้อนรับผู้ลี้ภัย แต่ขณะเดียวกันก็ถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างดุเดือด โดยเฉพาะจากรัฐบาวาเรีย ซึ่งเป็นทางเข้าหลักของผู้ลี้ภัยและผู้อพยพที่เดินทางมาถึง
ความรูัสึกของชาวเยอรมันต่อผู้ลี้ภัยขุ่นมัวมากยิ่งขึ้นนับตั้งแต่วันส่งท้ายปีเก่า ต้อนรับปีใหม่ หลังมีผู้หญิงหลายร้อยคนถูกลวนลามและปล้นสะดมโดยกลุ่มชายที่ส่วนใหญ่เป็นชาวอาหรับและแอฟริกาเหนือ ด้านนอกของสถานีรถไฟหลักเมืองโคโลญ
2 สัปดาห์หลังเหตุการณ์ดังกล่าว จำนวนคำร้องเรียนทางอาญาพุ่งแตะระดับ 652 กรณีในวันพฤหัสบดี (14 ม.ค.) ในนั้นมีถึง 331 กรณีเป็นที่เกี่ยวข้องกับอาชญากรรมทางเพศ