xs
xsm
sm
md
lg

In Pics & Clips : “โอบามา” แถลงนโยบายประจำปีครั้งสุดท้าย ชูโครงการ “รักษามะเร็ง-ลดใช้เชื้อเพลิงฟอสซิล” พร้อมย้ำ “ไอเอส” ไม่อาจคุกคามความอยู่รอดของอเมริกา

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดี บารัค โอบามา แห่งสหรัฐฯ ขึ้นแถลงนโยบายประจำปี 2016 ซึ่งถือเป็นปีสุดท้ายของการดำรงตำแหน่งผู้นำประเทศ โดยปฏิเสธเสียงวิจารณ์ที่ว่าเศรษฐกิจอเมริกากำลังถดถอย พร้อมยืนยันว่า กลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม (ไอเอส) ไม่สามารถคุกคามความอยู่รอดของอเมริกา

ระหว่างแถลงนโยบายประจำปี (State of the Union) เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (12 ม.ค.) ตามเวลาในสหรัฐฯ โอบามา พยายามแสดงบทบาทผู้นำที่มองโลกในแง่ดี เพื่อตอบโต้เสียงวิจารณ์จากฝ่ายตรงข้ามที่ว่าอเมริกา “เดินมาผิดทาง” ตลอดระยะเวลา 7 ปีที่เขาเป็นผู้นำประเทศ พร้อมกันนั้นก็ได้ยกย่อง “ความเปลี่ยนแปลงใหญ่หลวง” ที่มาพร้อมกับโอกาส และความสุ่มเสี่ยงที่จะเกิดความไม่เท่าเทียมในสังคม



โอบามา ประกาศว่า รัฐบาลจะสนับสนุนโครงการรักษา “โรคมะเร็ง” ตลอดจนผลักดันให้มีการลดใช้ “พลังงานสกปรก” และสลายความขัดแย้งที่ยังตกค้างจากยุคสงครามเย็นโดยการฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับ “คิวบา”

ขณะที่การหยั่งเสียงแบบ “คอคัส” ในกระบวนการคัดเลือกผู้แทนพรรคเดโมแครตและรีพับลิกันเพื่อเฟ้นหาบุคคลที่จะมาดำรงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯคนต่อไปกำลังจะมีขึ้นในอีกไม่ถึง 3 สัปดาห์ โอบามา ก็ได้ตอบโต้เสียงวิจารณ์ของผู้สมัครสายรีพับลิกัน โดยระบุว่า “ใครก็ตามที่อ้างว่าเศรษฐกิจอเมริกากำลังถดถอย เท่ากับกุเรื่องโกหก”

ในส่วนของภัยก่อการร้าย โอบามา ยอมรับว่า กลุ่มไอเอสซึ่งแผ่อิทธิพลอยู่ในอิรักและซีเรีย “เป็นอันตรายอย่างใหญ่หลวง” แต่ยืนยันว่าพวกเขา “ไม่อาจคุกคามความอยู่รอดของสหรัฐฯ”

“การกล่าวว่านี่คือสงครามโลกครั้งที่ 3 เป็นการพูดเกินจริงที่มีแต่จะทำให้ผู้ก่อการร้ายได้ประโยชน์”

โอบามา ยังเปรียบเทียบความท้าทายในการคิดค้นนวัตกรรมทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคมะเร็งว่าไม่แตกต่างจากการส่งนักบินอวกาศไปเยือนดวงจันทร์ พร้อมมอบหมายให้รองประธานาธิบดี โจ ไบเดน เป็นผู้รับผิดชอบงานในด้านนี้

“เพื่อบุคคลที่เรารักซึ่งจากไปแล้ว และเพื่อสมาชิกในครอบครัวที่เรายังรักษาไว้ได้ โปรดทำให้อเมริกาเป็นชาติที่สามารถรักษามะเร็งหายขาดเพื่อคนทุกคน” โอบามา กล่าว

ปีที่แล้ว บุตรชายของ ไบเดน ที่ชื่อ “โบ” ซึ่งเป็นทั้งนักการเมืองและอดีตนายทหารวัยเพียง 46 ปี ได้เสียชีวิตลงด้วยโรคมะเร็งในสมอง ซึ่งนับเป็นความสูญเสียที่ชาวอเมริกันต่างโศกเศร้าไปกับครอบครัวของเขา ขณะที่ ไบเดน ได้ออกมาปฏิเสธข่าวลือเรื่องการลงชิงตำแหน่งผู้นำสหรัฐฯ พร้อมผันตัวมาเป็นผู้สนับสนุนงานวิจัยด้านโรคมะเร็งอย่างจริงจัง

โอบามา ยังประกาศจะผลักดันให้มีการลดใช้น้ำมันและถ่านหิน ซึ่งทำให้เกิดปฏิกิริยาตอบสนองแตกต่างกันไปทั้งจากกลุ่มนักอนุรักษ์ซึ่งเรียกร้องให้สหรัฐฯ จำกัดการผลิตเชื้อเพลิงฟอสซิล และกลุ่มธุรกิจพลังงานที่กำลังหวั่นวิตกว่ารัฐจะแก้ไขกฎระเบียบต่าง ๆ

“ผมจะสนับสนุนให้มีการเปลี่ยนแปลงวิธีจัดการทรัพยากรน้ำมันและถ่านหินของเรา เพื่อให้เห็นถึงผลกระทบที่มีต่อประชาชนผู้เสียภาษี และโลกที่เราอาศัยอยู่”

ผู้นำสหรัฐฯ ยังแสดงความเสียใจต่อปัญหาความขัดแย้งภายในสภาคองเกรส และยอมรับว่าตนไม่สามารถเชื่อมรอยร้าวระหว่างเดโมแครตและรีพับลิกันได้อย่างมีประสิทธิภาพพอ

“นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่ผมรู้สึกเสียใจในการเป็นประธานาธิบดี... ผมเสียใจที่ความขุ่นเคืองและความลังเลสงสัยระหว่าง 2 พรรคมีแต่จะย่ำแย่ลง แทนที่จะดีขึ้น”

“ไม่ต้องสงสัยเลยว่า อดีตประธานาธิบดีผู้มีพรสวรรค์อย่าง ลินคอล์น หรือ รูสเวลต์ คงจะสามารถบรรเทาความแตกแยกเช่นนี้ได้ และผมเองก็ขอยืนยันว่าจะพยายามทำให้ได้ดียิ่งขึ้น ในช่วงเวลาที่ยังเหลืออยู่”

โอบามา ยังเอ่ยถึงกระแสเกลียดชังชาวมุสลิมในสังคมอเมริกัน ซึ่งดูเหมือนจะเป็นการพุ่งเป้าวิจารณ์ “โดนัลด์ ทรัมป์” มหาเศรษฐีปากเปราะผู้เป็นเต็งหนึ่งของรีพับลิกัน โดยเตือนว่า “เมื่อใดที่นักการเมืองออกมาด่าทอชาวมุสลิม... ในสิ่งที่ไม่เป็นความจริง นั่นคือการกระทำที่ผิด และทำให้สหรัฐฯ ดูตกต่ำลงในสายตาชาวโลก”

ทรัมป์ ได้ออกมาตอบโต้ทันควัน โดยวิจารณ์คำแถลงนโยบายประจำปีครั้งสุดท้ายของ โอบามา ว่า “ทั้งน่าเบื่อ เชื่องช้า และเฉื่อยชาจนแทบทนดูไม่ได้”














กำลังโหลดความคิดเห็น