เอเอฟฟี - ราคาน้ำมันสหรัฐฯ ทรุดลงต่ำกว่า 30 ดอลลาร์ต่อบาร์เรลช่วงหนึ่งของการซื้อขาย นับเป็นครั้งแรกในรอบ 12 ปีเมื่อวันอังคาร (12 ม.ค.) กระตุ้นให้ไนจีเรียร้องขอโอเปกประชุมฉุกเฉิน อย่างไรก็ตาม วอลล์สตรีทสามารถปิดบวกแข็งแกร่งจากแรงหนุนกลุ่มเทคโนโลยี ขณะที่ทองคำขยับลงหลังดอลลาร์แข็งค่าขึ้น
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 97 เซ็นต์ ปิดที่ 30.44 ดอลาร์ต่อบาร์เรล หลังจากช่วงหนึ่งทรุดลงไปแตะ 29.93 ดอลลาร์ ต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2003 ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกันลดลง 69 เซ็นต์ ปิดที่ 30.86 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ปัญหาความตกต่ำของราคาน้ำมัน อันมีต้นตอจากภาวะอุปทานล้นตลาด กระพือความยุ่งเหยิงด้านรายได้แก่เหล่าผู้ส่งออก ขณะที่นักวิเคราะห์บางส่วนมองว่าอาจได้เห็นราคาทรุดลงแตะ 20 ดอลลาร์ในอนาคตอันใกล้
เอมมานูเอล ไอบ์ คาชิควู รัฐมนตรีทรัพยากรปิโตรเลียมของไนจีเรีย คาดหมายว่าน่าจะมีการประชุมฉุกเฉินของโอเปกในช่วงต้นเดือนมีนาคม เพื่อหารือหาแนวทางไม่ให้ราคาน้ำมันดำดิ่งไปมากกว่านี้
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันอังคาร (12 ม.ค.) พุ่งแรง ท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวน จากแรงช้อนซื้อหุ้นกลุ่มพลังงาน และแรงหนุนของหุ้นแอปเปิลและบริษัทเทคโนโลยีอื่นๆ
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 117.65 จุด (0.72 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 16.516.22 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 15.01 จุด (0.78 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 1,938.68 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 47.93 จุด (1.03 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,685.92 จุด
แม้ราคาน้ำมันดิบจะปิดในแดนลบ แต่ดัชนีพลังงานของเอสแอนด์พี500 แกว่งตัวสู่แดนบวกก่อนปิดตลาด และลงเอยด้วยการปิดบวก 0.2 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่หุ้นของเอ็กซอนโมบิล ปรับขึ้น 1.6 เปอร์เซ็นต์ และเชฟรอน ปรับขึ้น 1 เปอร์เซ็นต์
นอกจากนี้แล้ววอลล์สตรีทยังได้แรงหนุนกลุ่มเทคโนโลยี โดยเฉพาะแอปเปิลที่ปิดบวก 1.2 เปอร์เซ็นต์ และอินเทล ที่ปิดบวก 1.9 เปอรเซ็นต์
ส่วนราคาทองคำในวันอังคาร (12 ม.ค.) ปิดลบแรงจากดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 11 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,085.20 ดอลลาร์ต่อออนซ์