เอเจนซีส์ - มีผู้เสียชีวิต 10 ราย และบาดเจ็บ 15 ราย ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวต่างชาติ เมื่อมือระเบิดฆ่าตัวตายจุดชนวนบึ้มขึ้นที่เขตประวัติศาสตร์สำคัญและเป็นที่นิยมของบรรดานักท่องเที่ยวในนครอิสตันบูล ตอนเช้าวันอังคาร (12 ม.ค.) ทางด้านประธานาธิบดี เรเซป ตอยยิป เออร์โดกัน ออกมาประณามเหตุการณ์คราวนี้ว่าเป็นการก่อการร้าย พร้อมระบุว่าคนร้ายเป็นชาวซีเรีย
ภาพที่ได้รับการเผยแพร่ออกมา แสดงให้เห็นร่างคนที่ถูกระเบิดจนอวัยวะฉีกขาดหลายร่างนอนนิ่งอยู่บนพื้นดินใกล้ๆ กับ บลูมอสก์ (มัสยิดสีน้ำเงิน) ในย่านสุลตานาห์เมต อันเป็นที่ตั้งของโบราณสถานทางประวัติศาสตร์จำนวนมากของเมืองอิสตันบูล ซึ่งเป็นที่รู้จักกันทั่วโลก และแต่ละวันมีนักท่องเที่ยวเดินทางเที่ยวชมนับหมื่นๆ
“ผมขอประณามอย่างแรงกล้าต่อเหตุการณ์ก่อการร้ายคราวนี้ซึ่ง … เป็นฝีมือการโจมตีของมือระเบิดฆ่าตัวตายผู้หนึ่งที่มีรากเหง้าจากซีเรีย” เออร์โดกันระบุในการกล่าวปราศรัยจากเมืองหลวงอังการา
ขณะที่รองนายกรัฐมนตรี นูมัน คูร์ตุลมุส กล่าวเพิ่มเติมว่า คนร้ายผู้นี้เป็นคนสัญชาติซีเรีย เกิดเมื่อปี 1988 เขาบอกด้วยว่าผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่เป็นชาวต่างประเทศ แต่ไม่ได้แจกแจงให้รายละเอียดว่าเป็นคนชาติใดบ้าง
ทางด้านนายกรัฐมนตรี อังเกลา แมร์เคิล ของเยอรมนี กล่าวที่กรุงเบอร์ลินว่าคงจะมีชาวเยอรมันตกเป็นเหยื่อของเหตุร้ายคราวนี้ด้วย
“เรายังไม่ได้รับข้อมูลข่าวสารทั้งหมดในเวลานี้ … แต่เราก็กลัวกันว่าอาจจะมีและบางทีคงจะมีพลเมืองชาวเยอรมันอยู่ในหมู่เหยื่อที่เสียชีวิตและบาดเจ็บ” เธอกล่าวกับพวกผู้สื่อข่าว
ไม่นานหลังเกิดเหตุระเบิดคราวนี้ เยอรมนีได้ออกคำเตือนพลเมืองของตนให้หลีกเลี่ยงอย่าเข้าไปยังสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ในอิสตันบูล เมืองใหญ่ที่มีประชากรราว 14 ล้านคน และมีดินแดนตั้งอยู่ทั้งในฟากยุโรปและฟากเอเชีย ตลอดจนเกิดเหตุโจมตีที่ทำให้มีผู้บาดเจ็บล้มตายมาหลายครั้งหลายหนแล้ว
ทางด้านสำนักข่าวดูกัน ของตุรกีรายงานว่า ในจำนวนผู้บาดเจ็บนั้น มีชาวเยอรมัน 9 คน ชาวเปรู 1 คน ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศนอร์เวย์แถลงว่า มีชายชาวนอร์เวย์ 1 คนได้รับบาดเจ็บ
กำลังตำรวจตลอดจนรถพยาบาลและรถดับเพลิงแข่งความเร็วแล่นเข้าไปยังจุดเกิดเหตุ และทำการปิดกั้นรักษาความปลอดภัยในบริเวณนั้นอย่างเข้มงวด ขณะที่มีเฮลิคอปเตอร์บินวนอยู่เหนือศีรษะ ฝูงชนทั้งที่เป็นชาวท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวซึ่งต่างมีสีหน้าท่าทางวิตกกังวล เฝ้าเพียรพยายามค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้น
สื่อมวลชนรายงานว่า การระเบิดเกิดขึ้นเมื่อเวลาราว 10.20 น. ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับ 15.20 น. เวลาไทย) ที่บริเวณเสาหินโอเบลิสก์ แห่งธีโอโดเซียส ซึ่งเป็นหนึ่งในอนุสาวรีย์ที่โดดเด่นที่สุดของอิสตันบูล และตั้งอยู่ด้านนอกของมัสยิดสีน้ำเงิน
ทางด้านนายกรัฐมนตรีอาเหม็ด ดาวูโตกลู ได้เรียกประชุมฉุกเฉินในกรุงอังการากับเหล่ารัฐมนตรีและหัวหน้าหน่วยงานด้านความมั่นคง
สำนักงานผู้ว่าการนครอิสตันบูลแถลงว่า เวลานี้การสืบสวนสอบสวนมุ่งไปที่การระบุชนิดของวัตถุระเบิดที่คนร้ายใช้ รวมทั้งประเด็นที่ว่ายังมีคนอื่นๆ เกี่ยวข้องกับการโจมตีคราวนี้หรือไม่
ระเบิดที่เกิดขึ้นนี้รุนแรงกระทั่งได้ยินไปถึงย่านอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง นักท่องเที่ยวเยอรมันผู้หนึ่งเล่าว่า เสียงระเบิดดังมาก พื้นสั่นสะเทือน และมีกลิ่นไหม้ลอยคละคลุ้ง
ตุรกีได้เพิ่มมาตรการระวังภัยนับจากวันที่ 10 ตุลาคมที่ผ่านมา ที่มือระเบิดฆ่าตัวตายสองคนระเบิดตัวเองท่ามกลางกลุ่มนักเคลื่อนไหวอย่างสันติในกรุงอังการา ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตถึง 103 ราย ถือเป็นการโจมตีนองเลือดที่สุดในประวัติศาสตร์สมัยใหม่ของตุรกี
เหตุการณ์ดังกล่าวเชื่อว่าเป็นฝีมือกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ซึ่งก็รวมถึงการโจมตีอีกสองครั้งในพื้นที่ที่ชนส่วนใหญ่เป็นชาวเคิร์ดทางด้านตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเมื่อปีที่แล้ว
ช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ตุรกีควบคุมตัวผู้ต้องสงสัยเป็นสมาชิกไอเอสหลายคนที่ถูกระบุว่า กำลังวางแผนโจมตีอิสตันบูล
ขณะเดียวกัน ตุรกียังต้องรับมือการโจมตีจาก เคอร์ดิสถาน เวิร์คเกอร์ ปาร์ตี้ (พีเคเค) ซึ่งเป็นพรรคการเมืองนอกกฎหมายที่ก่อการโจมตีนองเลือดต่อสมาชิกกองกำลังความมั่นคงตุรกีในภาคตะวันออกเฉียงใต้หลายสิบครั้ง
พีเคเคลุกฮือต่อต้านรัฐบาลตุรกีในปี 1984 โดยเริ่มด้วยการต่อสู้เพื่อเรียกร้องอิสรภาพของชาวเคิร์ด แต่ตอนนี้เบนเป้าหมายเป็นการขยายอำนาจในการปกครองตนเองและสิทธิสำหรับชาวเคิร์ด ซึ่งเป็นชาติพันธุ์กลุ่มน้อยที่ใหญ่ที่สุดในตุรกี
ความขัดแย้งนี้ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตนับหมื่นดูเหมือนใกล้ยุติเต็มที จนกระทั่งข้อตกลงหยุดยิงถูกละเมิดในเดือนกรกฎาคมปีที่แล้ว
ในวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมายังเกิดเหตุการโจมตีด้วยปืนครกในท่าอากาศยานนานาชาติอิสตันบูล ที่ทำให้พนักงานทำความสะอาดหญิงคนหนึ่งเสียชีวิต และเครื่องบินหลายลำเสียหาย โดยกลุ่มฟรีดอม ฟัลคอนส์ ออฟ เคอร์ดิสถาน (ทีเอเค) ซึ่งเป็นกลุ่มการเมืองชาวเคิร์ดกลุ่มเล็กๆ ที่แยกตัวออกมาเป็นอิสระ ได้อ้างความรับผิดชอบ
นอกจากนั้นยังมีแนวร่วมเรฟโวลูชัน พีเพิลส์ ลิเบอเรชัน ปาร์ตี้-ฟรอนต์ (ดีเอชเคพี-ซี) ซึ่งเป็นกลุ่มซ้ายสุดโต่งผิดกฎหมายของตุรกี ได้ทำการโจมตีขนาดเล็กหลายครั้งในอิสตันบูลในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา