เอเจนซีส์ - หน่วยกำลังรบพิเศษอังกฤษ SAS จำนวน 1,000 นายถูกส่งไปร่วมปฏิบัติการพิเศษร่วมกับทหารจากชาติยุโรปและสหรัฐฯ ในปฏิบัติการหยุดการรุกคืบของก่อการร้าย IS ในลิเบีย ภายใต้การนำของอิตาลี ซึ่งในปฏิบัติการที่มีทหารทั้งหมด 6,000 นายนอกจากต้านการรุกคืบแล้ว ยังมีภารกิจในการยึดคืนหลุมขุดเจาะน้ำมันในลิเบียที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มก่อการร้ายจำนวนหลายสิบหลุมกลับคืนมา ซึ่งล่าสุดในวันจันทร์ (4 ม.ค) พบท่าเรือขนส่งน้ำมันซีดรา (Sidra) ที่ใหญ่ที่สุดในลิเบียถูกก่อการร้ายโจมตี
RT สื่อรัสเซีย รายงานเมื่อวานนี้ (4 ม.ค) ปฏิบัติการนานาชาติยึดบ่อขุดเจาะน้ำมันในลิเบียที่ตกอยู่ภายใต้การยึดครองของกลุ่มก่อการร้าย IS คาดว่าจะมีทหารจากชาติต่างๆ ทั้งในยุโรป และสหรัฐฯ เข้าร่วมราว 6,000 นาย ภายใต้การนำของอิตาลี
สื่อรัสเซียรายงานว่า กองกำลังส่วนใหญ่ในปฏิบัติการนี้คาดว่าจะมาจากฝรั่งเศสและอังกฤษเป็นหลัก ซึ่งในส่วนของอังกฤษ มีรายงานว่ามีการส่งทหารหน่วยกำลังรบพิเศษ SAS จำนวนมากถึง 1,000 นายเข้าร่วม
ซึ่งในปฏิบัติการนี้มีหน่วยกองกำลังรบพิเศษอังกฤษ SAS ที่รวมไปถึงเจ้าหน้าที่ผู้เชี่ยวชาญด้านการสอดแนมหาข่าวจากหน่วยลาดตระเวนพิเศษอังกฤษ SRR เป็นหัวหอกสำคัญ เดลิมิเรอร์ สื่ออังกฤษรายงาน
RT รายงานต่อว่า ที่ผ่านมากลุ่มก่อการร้าย IS ได้เข้ายึดหลุมขุดเจาะน้ำมันหลายสิบหลุมในลิเบีย และยังวางแผนที่จะเดินหน้ารุกคืบยึดต่อเพื่อหวังให้น้ำมันดิบเหล่านี้เป็นแหล่งเงินทุนสำหรับกลุ่มในการก่อการร้าย
และมีรายงานว่า ทางกลุ่มก่อการร้ายมีเป้าหมายที่จะยึดโรงกลั่นน้ำมัน มาร์ซา อัล เบรกา (Marsa al Brega) ในลิเบีย ซึ่งเป็นโรงกลั่นน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดในแอฟริกาเหนือ
ซึ่งสื่อรัสเซียชี้ว่า หากทางกลุ่มก่อการร้ายประสบความสำเร็จสามารถยึดครองโรงกลั่นน้ำมันแห่งนี้ที่ตั้งอยู่ระหว่างเมืองเซิร์ต (Sirte) และเมืองเบงกาซี (Benghazi) ได้สำเร็จ กลุ่ม IS จะสามารถครอบครองอุตสาหกรรมน้ำมันของลิเบียได้อย่างเบ็ดเสร็จ
และที่ผ่านมาทางหน่วยรบพิเศษอังกฤษ SAS ได้ร่วมมือกับหน่วยรบคอมมานโดลิเบียในการฝึกซ้อมต่อต้านก่อการร้าย โดยทางอังกฤษได้แนะนำแท็กติกวิธีจัดการในการสู้รบด้วยกองกำลัง รถถัง อากาศยานรบ และเรือรบต่างๆ
และนอกจากนี้ทาง SAS ยังส่งความเคลื่อนไหวด้านการข่าวกรองกลับไปยังเหล่าผู้บัญชาการระดับสูงในกระทรวงกลาโหมอังกฤษ (MOD) เพื่อวางแผนใช้การโจมตีทางอากาศในยามที่ต้องการ
ทั้งนี้ แหล่งข่าวระดับสูงทางทหารของอังกฤษให้สัมภาษณ์กับเดอะมิร์เรอร์ สื่ออังกฤษว่า ปฏิบัติการผสมครั้งนี้จะใช้ทรัพยากรของหน่วยงานทุกอย่างที่มีนับตั้งแต่การหาข่าว เพื่อต่อสู้กับกลุ่มก่อการร้าย IS ที่ได้รุกคืบอยู่ในลิเบียในเวลานี้
“ทางเรามีหน่วยกำลังรบพิเศษอยู่ในพื้นที่ ซึ่งจะเป็นผู้ประเมินสถานการณ์ และจะเป็นผู้ตัดสินว่าจุดใดที่ต้องโจมตี และชี้ให้เห็นถึงสิ่งที่เป็นภัยต่อกองกำลังอังกฤษ” แหล่งข่าวระดับสูง MOD อังกฤษให้ความเห็น
และบีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานเพิ่มเติมว่า เมื่อวานนี้ (4) มีรายงานว่าเกิดกลุ่มก่อการร้าย IS ได้พยายามเข้ายึดท่าเรือขนถ่ายน้ำมันที่ใหญ่ที่สุดของลิเบีย
และทำให้เกิดการปะทะขึ้นระหว่างนักรบญิฮาด IS และเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยท่าเรือขนส่งน้ำมันซีดรา (Sidra) ห่างทางตะวันตกไปราว 23 กม.ของเมืองราส ลานุฟ (Ra's Lanuf)
โดยพบว่าในแต่ละวันท่าเรือแห่งนี้สามารถขนส่งน้ำมันดิบได้ถึงวันละ 447,000 แกลลอน
สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า ในเหตุโจมตีท่าเรือแห่งนี้ มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 นายถูกสังหาร และในเบื้องต้นพบว่าทางกลุ่มก่อการร้าย IS ต้องล่าถอยออกไป แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนั้นทางกลุ่ม IS ได้ประกาศชัยชนะ อ้างความสำเร็จสามารถยึดครองเมืองบิน จาวาด( Bin Jawad) ซึ่งห่างจากเมืองซีดราไปทางตะวันตกราว 30 กม. ซึ่งอยู่ไม่ห่างจากเมืองเซิร์ต ที่ทาง IS ได้ยึดไว้ก่อนหน้านี้
สื่ออังกฤษรายงานว่า ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมาทางฝรั่งเศสได้ออกแถลงการณ์เตือนว่ากลุ่มก่อการร้าย IS มีเป้าหมายเพื่อเข้ายึดบ่อน้ำมันทั้งหมดในลิเบีย
ทั้งนี้ จากข้อมูลของกระทรวงมหาดไทยลิเบียพบว่า มีนักรบญิฮาด IS ร่วม 5,000 คนปฏิบัติการอยู่ในประเทศ และก่อนหน้านี้มีข่าวลือว่า อาบู บักห์ดาดี หัวหน้ากลุ่มก่อการร้าย IS ได้หลบมาพักรักษาตัวในลิเบีย หลังจากสามารถหลบหนีการโจมตีทางอากาศของรัสเซียได้ในเดือนตุลาคม ปีที่ผ่านมา