xs
xsm
sm
md
lg

“บาห์เรน-ซูดาน” ร่วมซาอุฯ ตัดสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน “สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์” ประกาศลดจำนวนนักการทูต

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online

ภาพการลุกฮือประท้วงในอิหร่าน
เอเจนซีส์ - หลังจากซาอุดีอาระเบียสั่งขับนักการทูตอิหร่านภายใน 48 ชม.ในวันอาทิตย์ (3 ม.ค) ล่าสุดความตึงเครียดเริ่มจะบานปลายเมื่อ 2 ประเทศมุสลิมนิกายสุหนี่ เช่น ซูดาน บาห์เรน ร่วมขบวนประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านหลังเกิดเหตุบุกสถานทูตซาอุฯ ในขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ประกาศลดระดับทางการทูตกับเตหะรานด้วยการสั่งเรียกตัวเอกอัคราชทูตกลับประเทศ ลดจำนวนเจ้าหน้าที่การทูต แต่ยังคงความสัมพันธ์ทางการค้าไว้

RT รายงานเมื่อวานนี้ (4 ม.ค) ว่า ประเทศพันธมิตรซาอุดีอาระเบีย เช่น ซูดาน และบาห์เรน ล่าสุดได้ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่าน โดยบาห์เรนในวันจันทร์ (4) ได้ประกาศสั่งขับนักการทูตอิหร่านออกนอกประเทศภายใน 48 ชม. จากการแถลงของ ไอซา อัล-ฮามาดี (Isa al-Hamadi) รัฐมนตรีการสื่อสารบาห์เรน

“บาห์เรนตัดสินใจตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับสาธารณรัฐอิสลามอิหร่าน และขอให้นักการทูตอิหร่านทุกคนที่ปฏิบัติหน้าที่อยู่ในบาห์เรนให้เดินทางออกนอกราชอาณาจักรภายใน 48 ชม.” อัล-ฮามาดีแถลงผ่านการรายงานของสื่อรัฐบาลบาห์เรน BNA

นอกจากนี้ บีบีซี สื่ออังกฤษได้รายงานเพิ่มเติมว่า บาห์เรนที่มีประชากรส่วนใหญ่นับถือศาสนาอิสลามนิกายชีอะห์ แต่ราชวงศ์ผู้ปกครองประเทศนับถือศาสนาอิสลามนิกายสุหนี่ และอีกทั้งยังเป็นที่ตั้งของกองเรือที่ 5 ของสหรัฐฯ ความสัมพันธ์ระดับทวิภาคีระหว่างบาห์เรนกับอิหร่านนั้นมีความขัดแย้งมาโดยตลอด

ทั้งนี้ เป็นที่รู้กันว่ารัฐบาลบาห์เรนได้กล่าวหาอิหร่านว่าอยู่เบื้องหลังเหตุการณ์ไม่สงบภายในประเทศนับตั้งแต่ปี 2011 แต่เป็นข้อกล่าวหาที่ทางเตหะรานประกาศไม่ยอมรับ

ซึ่งในคำแถลงการณ์ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตนี้ บาห์เรนได้ชี้ว่า “อิหร่านเป็นตัวอันตรายเพิ่มมากขึ้นในกิจการภายในของย่านอ่าวอาหรับและประเทศในตะวันออกกลาง” บีบีซีรายงาน

และในแถลงการณ์ของบาห์เรนยังได้กล่าวประณามอิหร่านว่า “เหตุการณ์บุกโจมตีสถานทูตซาอุดีอาระเบียนั้นเป็นหนึ่งในรูปแบบของการใช้ความขัดแย้งทางศาสนาที่ถูกใช้เป็นนโยบาย ที่เห็นควรว่าต้องได้รับการต่อต้านเพื่อรักษาเสถียรภาพและความสุขสงบของภูมิภาคตะวันออกกลางไว้”

บีบีซีรายงานเพิ่มเติมอีกว่า ในสุดสัปดาห์ที่ผ่านมามีการเดินขบวนต้านอิหร่านในบาห์เรน และเมื่อวานนี้ (4) ชุมชนมุสลิมชีอะห์ในบาห์เรนได้ออกมารวมตัวประท้วงอิหร่าน

และนอกจากนี้ ในอีกฟากฝั่งแอฟริกา เมื่อวานนี้ (3) ทางกระทรวงการต่างประเทศซูดานได้ออกแถลงการณ์ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านเช่นเดียวกัน

โดยในแถลงการณ์ได้กล่าวว่า “ในการตอบโต้กับการกระทำอันป่าเถื่อนที่บุกเข้าโจมตีสถานทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเตหะราน และรวมถึงสถานกงสุลอิหร่านซึ่งตั้งอยู่ในเมืองมาชฮาด (Mashhad) ดังนั้นรัฐบาลซูดานจึงขอประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตอย่างฉับพลันกับสาธารณรัฐอิหร่าน”

ซึ่งการประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิหร่านของบาห์เรนและซูดานเกิดขึ้นตามหลังรัฐบาลซาอุดีอาระเบียเป็นประเทศผู้นำ ประกาศตัดความสัมพันธ์ทางการทูตและสั่งขับนักการทูตอิหร่านออกนอกราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียภายใน 48 ชม. เพื่อตอบโต้ที่สถานทูตและสถานกงสุลของซาอุดีอาระเบียถูกบุกเข้าทำลายในวันเสาร์ (2)

และในการให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศซาอุดีอาระเบีย อาเดล อัล-ญูเบอีร์ (Adel al-Jubeir) ยืนยันว่า ประชาชนชาวอิหร่านที่ต้องการเดินทางไปแสวงบุญที่นครเมกกะยังคงสามารถกระทำได้ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ทางการทูต ทางการค้า และการขนส่งทางอากาศระหว่างสองชาติจะถูกระงับโดยสิ้นเชิงก็ตาม

บีบีซีรายงานต่อว่า ในขณะที่สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้ออกมาตอบโต้การกระทำของอิหร่านในเรื่องนี้เช่นกัน

โดยทางสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ได้สั่งลดจำนวนนักการทูตที่ประจำอยู่ในกรุงเตหะราน รวมไปถึงสั่งเรียกตัวเอกอัครราชทูตสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์กลับประเทศทันที แต่อย่างไรก็ตาม อาบูดาบียังคงความสัมพันธ์ทางการค้ากับอิหร่านต่อไป

ซึ่งสื่ออังกฤษวิเคราะห์ว่า หลังจากที่ริยาดทำการประหารชีวิตอิหม่ามนิกายชีอะห์ชื่อดัง “ชีค นิมรา อัล-นิมรา” มีความกังวลว่าอาจทำให้สงครามทางศาสนาระหว่างสองนิกายขยายตัวลุกลามออกไปทั่วภูมิภาค โดยเมื่อวานนี้ (4) มีรายงานว่า มัสยิดนิกายสุหนี่ 2 แห่งในอิรักถูกโจมตีด้วยระเบิด และอิหม่ามนิกายสุหนี่ 1 คนในอิรักถูกสังหาร

และนอกจากนี้บีบีซียังมองว่า นับตั้งแต่นี้ดูเหมือนพันธมิตรของซาอุฯ จะร่วมมือกับริยาดต้านอิหร่านมากยิ่งขึ้น

สื่ออังกฤษได้ชี้ว่า เป็นที่น่าสังเกตว่าทางซาอุฯ ดูเหมือนจะเตรียมรับมือด้านก่อการร้ายอย่างเต็มตัว และได้เริ่มต้นนับตั้งแต่ก่อนวันประหารนักโทษ 47 คนที่มีอิหม่ามนิกายสุหนี่ที่มีชื่อเสียงรวมอยู่ในนั้น

บีบีซีกล่าวต่อว่า สิ่งเหล่านี้สามารถพิสูจน์ได้จากเอกสารบันทึกความเข้าใจภายในของกระทรวงมหาดไทยซาอุดีอาระเบียที่รั่วไหลออกมาภายนอก และนักข่าวบีบีซีได้มีโอกาสเห็น

ซึ่งจากเอกสารภายในฉบับนี้พบว่าเป็นประกาศที่ออกมาจากหน่วยปฏิบัติการพิเศษซาอุดีอาระเบีย สั่งเรียกตัวเจ้าหน้าที่ทุกคนภายใต้สังกัดหน่วยงานต่อต้านก่อการร้าย “ยกเลิกวันหยุดทั้งหมด” และปฏิบัติงานเต็มสมรรถภาพของหน่วยนั้นนับตั้งแต่เช้าวันศุกร์ (1) เป็นต้นมา ซึ่งเป็นวันก่อนการประหารชีค นิมรา อัล-นิมรา
ภาพสถานทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเตหะรานถูกบุก
ภาพสถานกงสุลซาอุดีอาระเบียในเมืองมาชฮาดถูกบุกเช่นเดียวกัน
เกิดระเบิดภายในตัวสถานทูตซาอุดีอาระเบียในกรุงเตหะราน อิหร่าน

กำลังโหลดความคิดเห็น