รัสเซียโวยมะกันกล่าวหาทิ้งบอมบ์ฆ่าพลเรือนซีเรีย สวนกลุ่มสิทธิฯ บอกทีสหรัฐฯ เงียบเป็นเป่าสาก

เอเอฟพี - รัสเซียเมื่อวันพุธ (30 ธ.ค.) ออกมาโวยวายคำกล่าวหาของสหรัฐฯ ที่ว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของมอสโกในซีเรีย เข่นฆ่าพลเรือนหลายร้อยศพ “เป็นเรื่องเหลวไหลทั้งเพ” แถมจวกกลุ่มสิทธิมนุษยชนที่เงียบเป็นเป่าสากต่อการทิ้งบอมบ์ของอเมริกาที่ล้างผลาญชีวิตจำนวนมาก

มอสโกถูกวิพากษ์วิจารณ์จากตะวันตกเช่นเดียวกับกลุ่มสิทธิมนุษยชนและกบฏซีเรียหนักหน่วงขึ้น ต่อการสร้างความสูญเสียแก่ชีวิตพลเรือนจำนวนมากนับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการโจมตีทางอากาศประเทศที่ถูกสงครามฉีกขาดเมื่อ 3 เดือนก่อน

กระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯระบุในวันอังคาร(29ธ.ค.) ว่าการทิ้งบอมบ์ทางอากาศของรัสเซียเข่นฆ่าพลเรือนไปหลายร้อยศพและก่อความเสียหายแก่ที่ตั้งทางการแพทย์ โรงเรียนและตลาด

“คำแถลงที่ไม่ระบุตัวตนและไม่มีหลักฐานเกี่ยวกับคำกล่าวหาว่าเครื่องบินรัสเซียเล็งเป้าหมายถล่มพลเรือนในซีเรีย ทำให้นึกถึงการแสดงสะกดจิตในคณะละครสัตว์” กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุในถ้อยแถลง พร้อมเรียกคำกล่าวหาดังกล่าวว่า “ไร้สาระ”

กลุ่มสังเกตการณ์เพื่อสิทธิมนุษยชนซีเรียซึ่งมีสำนักงานในอังกฤษ บอกในวันพุธ (30 ธ.ค.) ว่าการโจมตีทางอากาศของมอสโกได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้ว 2,371 ศพ นับตั้งแต่เริ่มปฏิบัติการเมื่อวันที่ 30 กันยายน โดยรวมถึงพลเรือน 792 คนและในนั้นเป็นเด็ก 180 คน

ในเรื่องนี้ทางกระทรวงกลาโหมรัสเซียตอบโต้ว่า พวกเขาขอประณามกลุ่มสิทธิมนุษยชนต่างๆที่ปิดปากเงียบสนิทต่อการโจมตีทางอากาศของสหรัฐฯ ผู้นำพันธมิตรนานาชาติปฏิบัติการทิ้งบอมบ์ถล่มนักรบญิฮัดรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่ล้างผลาญชีวิตจำนวนมาก

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว องค์การนิรโทษกรรมสากลเผยแพร่รายงานอ้างว่าปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียเข่นฆ่าชีวิตพลเรือนหลายร้อยคน โดยหลายเป้าหมายนั้นอาจเข้าองค์ประกอบของการก่ออาชญากรรมสงคราม อย่างไรก็ตาม ทางโฆษกกระทรวงกลาโหมมอสโกปฏิเสธรายงานดังกล่าว โดยระบุว่ามันเป็นแค่การแต่งเรื่องขึ้นมาเท่านั้น