เอเอฟพี / เอพี / เอเจนซีส์ / MGR online – รัฐมนตรีกระทรวงข้อมูลข่าวสารของไนจีเรีย ประกาศในวันอังคาร ( 29 ธ.ค.) โดยย้ำ กลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์ “โบโก ฮารัม” ถูกกวาดล้างได้แล้วเป็นส่วนใหญ่ ถึงแม้ล่าสุดกลุ่มสุดโต่งนี้จะเพิ่งก่อเหตุโจมตี 2 วันติดต่อกันทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตนับสิบราย
ไล โมฮัมเหม็ด รัฐมนตรีประจำกระทรวงข้อมูลข่าวสารของไนจีเรียเผยต่อผู้สื่อข่าวที่กรุงลากอส โดยระบุ รัฐบาลไนจีเรียสามารถลดระดับภัยคุกคามจากกลุ่มโบโก ฮารัมลงได้อย่างสำคัญ โดยเฉพาะการทำลายขีดความสามารถของกลุ่มติดอาวุธหัวรุนแรงนี้ในการก่อเหตุโจมตี
“พวกโบโก ฮารัม ตระหนักดี ว่ากลุ่มสุดโต่งของพวกเขากำลังจะเหลือแต่ชื่อ และถูกขจัดจนสิ้นซาก” ไล โมฮัมเหม็ด รัฐมนตรีประจำกระทรวงข้อมูลข่าวสารของไนจีเรีย กล่าว พร้อมย้ำว่าในเวลานี้ รัฐบาลไนจีเรียได้เริ่มปรับเป้าหมายหลักจากการปราบปรามกลุ่มโบโก ฮารัม ไปสู่การหาทางนำพาประชาชนกลับคืนสู่บ้านเกิดของตนอีกครั้ง หลังจากที่ผู้คนจำนวนมาก ต้องอพยพหนีตายออกจากถิ่นฐาน เพราะภัยคุกคามของกลุ่มอิสลามิสต์สุดโต่งกลุ่มนี้
ถ้อยแถลงล่าสุดของไล โมฮัมเหม็ด รัฐมนตรีประจำกระทรวงข้อมูลข่าวสารของไนจีเรีย มีขึ้นหลังจากที่กลุ่มโบโก ฮารัมลงมือก่อเหตุโจมตี 2 ระลอกเริ่มตั้งที่การโจมตีด้วยระเบิดฆ่าตัวตายในช่วงค่ำของวันอาทิตย์ (27 ธ.ค.)ที่ผ่านมาที่เมืองไมดูกูรีเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 21 รายและได้รับบาดเจ็บอีกเป็นจำนวนมาก ตามติดด้วยการโจมตีด้วยวิธีการเดียวกันของมือระเบิดที่เป็นหญิงสาวจำนวน 2 รายในช่วงเช้าของวันจันทร์ (28 ธ.ค.) ในตลาดที่พลุกพล่านไปด้วยผู้คนแห่งหนึ่งในพื้นที่รัฐอะดามาวา เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตไปอีกอย่างน้อย 30 ราย
การโจมตีของกลุ่มโบโก ฮารัมทั้งสองระลอกล่าสุด เกิดขึ้นหลังจากมีรายงานว่า กลุ่มนักรบญิฮัดกลุ่มดังกล่าวได้บุกเข้าโจมตีหมู่บ้านคิมบาในรัฐบอร์โนใน ช่วงกลางดึกของคืนวันศุกร์ (25) ที่ผ่านมา ก่อนจะลงมือกราดยิงใส่ชาวบ้าน และจุดไฟเผาบ้านเรือนของประชาชนจนวอดเกือบทั้งหมู่บ้าน เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 14 ราย โดยที่มุสตาฟา คาริมเบ เจ้าหน้าที่อาสาสมัครพลเรือนซึ่งถูกฝึกจากกองทัพไนจีเรียให้ทำหน้าที่เป็นชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน ออกมายอมรับว่า กองกำลังป้องกันตนเองของชาวบ้านแทบไม่มีโอกาสได้จับอาวุธต่อสู้กับกลุ่มมือปืนสุดโต่ง ที่บุกเข้าโจมตีหมู่บ้านของพวกเขาในคืนวันคริสต์มาส และว่ากลุ่มมือปืนที่ก่อเหตุได้หลบหนีกลับเข้าสู่ป่าลึกหลังการโจมตีหมู่บ้านไม่นาน
ก่อนหน้านี้เมื่อวันพฤหัสบดี (24 ธ.ค.) ประธานาธิบดีมูฮัมมาดู บูฮารี ผู้นำไนจีเรีย เพิ่งออกโรงประกาศกร้าว โดยระบุว่ากองทัพไนจีเรียเป็นฝ่าย “มีชัยชนะในทางเทคนิค” เหนือกลุ่มติดอาวุธอิสลามิสต์โบโก ฮารัมแล้ว โดยยืนยัน ทางกองทัพสามารถทำลายศักยภาพในการก่อเหตุรุนแรงของกลุ่มสุดโต่งที่เคลื่อนไหวอยู่ทางภาคเหนือของประเทศกลุ่มนี้ ลงได้อย่างแล้วสำคัญ
ผู้นำดินแดนที่ได้ชื่อว่ามีประชากรอาศัยอยู่มากที่สุดของทวีปแอฟริกาเปิดเผยผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์บีบีซี เมื่อวันพฤหัสบดี (24) โดยระบุว่า การกวาดล้างอย่างหนักของกองทัพไนจีเรียตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ทำลายขีดความสามารถในการก่อเหตุโจมตีเต็มรูปแบบของกลุ่มโบโก ฮารัมลงได้แล้วอย่างสำคัญ จนกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งกลุ่มนี้ต้องหันไปใช้เพียงการก่อเหตุระเบิดฆ่าตัวตาย ในระยะหลัง ซึ่งนั่นหมายความว่าทางการไนจีเรียเป็นฝ่ายที่มีชัยชนะในทางเทคนิค เหนือกลุ่มก่อการร้ายกลุ่มนี้แล้ว ถึงแม้จะยังไม่สามารถกำจัดกลุ่มโบโก ฮารัมได้อย่างสิ้นซากก็ตาม
ก่อนหน้านี้ อดีตนายพลชื่อดังอย่างบูฮารีที่สามารถคว้าชัยชนะในการเลือกตั้งผู้นำไนจีเรียได้เมื่อช่วงต้นปีนี้ เหนือเจ้าของตำแหน่งคนเดิมอย่างประธานาธิบดีกู๊ดลัค โจนาธาน ประกาศกำหนดเส้นตายให้ทางกองทัพ ขุดรากถอนโคนภัยคุกคามจากกลุ่มโบโก ฮารัม ภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ และประกาศเดินหน้าสร้างงานและขยายโอกาสทางการศึกษาแก่บรรดาเยาวชนในพื้นที่ห่างไกลแถบตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศ หวังป้องกันมิให้เยาวชนในพื้นที่ถูกดึงเข้าร่วมกลุ่มติดอาวุธนี้ที่มีจุดมุ่งหมายในการสถาปนาการปกครองแบบรัฐอิสลามสุดโต่งขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของ ไนจีเรีย
ทั้งนี้ เหตุรุนแรงที่ก่อโดยกลุ่มโบโก ฮารัมซึ่งดำเนินมานานกว่า 6 ปีนับตั้งแต่ปี 2009 ได้คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วไม่น้อยกว่า 20,000 ราย ขณะที่ประชาชนอีกเกือบ 20 ล้านคนต้องอพยพหนีตายออกจากบ้านเรือนของตัวเอง โดยในระยะหลังกลุ่มโบโก ฮารัมซึ่งต้องการสถาปนา “รัฐอิสลามสุดโต่ง” ขึ้นในพื้นที่ภาคเหนือของไนจีเรีย ได้เริ่มข้ามเขตแดนไปก่อเหตุรุนแรงใน ประเทศไนเจอร์ แคเมอรูน และชาดอย่างต่อเนื่อง ตลอดจนประกาศสวามิภักดิ์ต่อกลุ่มนักรบรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียและอิรัก ไปเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา