รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / MGR online - องค์การเอกภาพแอฟริกัน (African Union : AU) ให้คำมั่นแก่บุรุนดี โดยยืนยันแผนการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพของตนเข้าไปยังอดีตอาณานิคมของเบลเยียมแห่งนี้ มีจุดมุ่งหมายหลักเพื่อนำความสงบและสันติกลับคืนสู่ชาวบุรุนดี หลังต้องเผชิญกับช่วงเวลา 8 เดือนแห่งความวุ่นวายไร้ขื่อแป เอยูย้ำชัดองค์กรของตนไม่มี “จุดประสงค์แอบแฝง” ในการแทรกแซงบุรุนดี
ก่อนหน้านี้ ทางเอยูประกาศเมื่อช่วงต้นเดือนธันวาคมว่า พร้อมจัดส่งกำลังทหารรักษาสันติภาพจำนวน 5,000 นายเข้าไปยังบุรุนดีเพื่อให้การช่วยเหลือปกป้องพลเรือนในประเทศนี้จากวิกฤตทางการเมืองครั้งเลวร้ายที่สุด นับตั้งแต่ยุคสงครามกลางเมืองบุรุนดีเมื่อทศวรรษก่อนหน้าแม้ทางการบุรุนดีจะแสดงจุดยืนคัดค้านการจัดส่งกองกำลังรักษาสันติภาพของเอยูแบบเสียงแข็ง โดยระบุว่าการส่งกองกำลังต่างชาติเข้ามาในประเทศของตนถือเป็นการละเมิดอธิปไตย ซึ่งรัฐบาลบุรุนดีมิอาจยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นได้
อย่างไรก็ดี นางเอ็นโกซาซานา ดลามินี-ซูมา ผู้บริหารสูงสุดชาวแอฟริกาใต้ขององค์การเอกภาพแอฟริกัน ซึ่งได้รับเลือกให้เข้ามารับหน้าที่ ผู้นำที่เป็นสตรีคนแรกขององค์กรแห่งนี้ตั้งแต่เมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2012 ออกโรงยืนยันว่า องค์กรของเธอไม่ได้มีจุดประสงค์แอบแฝงซ่อนเร้นใดๆ ในการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพเข้าไปยังบุรุนดี นอกเหนือไปจากการให้ความช่วยเหลือแก่รัฐบาลบุรุนดีและประชาชนชาวบุรุนดีในช่วงเวลาแห่งความขัดแย้ง และการคุกรุ่นของไฟแห่งความรุนแรงในประเทศ พร้อมย้ำว่าทางเอยูต้องการหารือร่วมกับรัฐบาลบุรุนดีก่อน เพื่อหาทางออกที่เหมาะสมที่สุดในการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพของเอยูเข้าไปปฏิบัติภารกิจในบุรุนดี ภายใต้ “ความยินยอม” ของทางการบุรุนดี
ขณะเดียวกัน นางเอ็นโกซาซานา ดลามินี-ซูมา ยังเรียกร้องให้คู่ขัดแย้งฝ่ายต่างๆในวิกฤตการเมืองบุรุนดีหันหน้ามาร่วมกันหาทางออกให้กับประเทศของตัวเอง และเข้าร่วมกระบวนการเจรจาสันติภาพที่มีกำหนดจัดขึ้นอีกครั้งที่ประเทศยูกันดาในวันที่ 28 ธันวาคมนี้
ก่อนหน้านี้ บัน คีมูน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ เผยเมื่อ 30 พ.ย.ที่ผ่านมา โดยระบุว่ากำลังพิจารณาแผนส่งกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นไปยังบุรุนดี เพื่อหาทางรับมือกับความรุนแรงในประเทศนี้ ท่ามกลางความพยายามทางการทูตที่ต้องการผลักดันให้เกิดกระบวนการเจรจาระหว่างคู่ขัดแย้งฝ่ายต่างๆ ก่อนจะเกิดสงครามเต็มรูปแบบ
เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติซึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้เสนอ 3 ทางเลือกในการแก้วิกฤตในบุรุนดีผ่านทางจดหมายที่ถูกส่งตรงถึงที่ประชุม 15 ชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council) เพื่อหาทางยับยั้งเหตุนองเลือดในบุรุนดี
โดย 3 ทางเลือกที่บันนำเสนอในครั้งนี้ รวมถึงการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อย, การตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญพิเศษเพื่อจับตาสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในบุรุนดี และการผลักดันกระบวนการเจรจาสันติภาพในบุรุนดีให้เป็นรูปเป็นร่าง
“ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในบุรุนดี ได้พุ่งขึ้นสู่ระดับที่น่าตื่นตระหนก และการพูดคุยหารือกันเพื่อยุติความรุนแรงนี้จะต้องถูกจัดให้เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นลำดับแรก โดยทางสหประชาชาติจะหาหนทางเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ร่วมกับหุ้นส่วนในภูมิภาค เพื่อหยุดยั้งสถานการณ์ด้านความมั่นคงในบุรุนดีที่เลวร้ายย่ำแย่ลง และป้องกันการขยายวงกว้างของความรุนแรง ซึ่งอาจทำให้เกิดความเป็นไปได้ในการเกิดสงครามเต็มรูปแบบ” เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นกล่าวผ่านจดหมาย
ทั้งนี้ บุรุนดีได้ถลำเข้าสู่วิกฤตความรุนแรงนับตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่ประธานาธิบดีปิแอร์ เอ็นคุรุนซิซา พยายามแก้บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญเพื่อขยายอำนาจให้ตัวเองได้อยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศต่อไป อีกทั้งยังดึงดันจัดการเลือกตั้งที่ทางคณะผู้สังเกตการณ์จากยูเอ็นระบุว่า ไม่มีทั้งความน่าเชื่อถือและความยุติธรรม เพื่อให้ตัวเองได้รับชัยชนะ เป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนมากออกมาแสดงพลังต่อต้าน จนเกิดเหตุรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 400 ราย ขณะที่ชาวบุรุนดีอีกมากกว่า 200,000 ราย ต้องหลบหนีออกนอกประเทศ