xs
xsm
sm
md
lg

กองทัพบุรุนดีแถลงมีผู้เสียชีวิตรวม 87 ศพ หลังสกัดพวกกบฏบุกปล้นปืนจากค่ายทหาร 3 แห่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / MGR online - มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 87 รายในประเทศบุรุนดี หลังเกิดเหตุโจมตีที่มีฐานทัพของกองทัพบุรุนดี 3 แห่งเป็นเป้าหมายเมื่อวันศุกร์ (11 ธ.ค.) ทั้งนี้เป็นการยืนยันในวันเสาร์ (12 ธ.ค.) ของโฆษกกองทัพบุรุนดี

พ.อ.กัสปาร์ด บาราตูซา โฆษกกองทัพบุรุนดี ออกมาแถลงในวันเสาร์ (12) โดยระบุว่ามีสมาชิกกองกำลังความมั่นคงของรัฐบาลบุรุนดีเสียชีวิตไป 8 นาย ขณะที่สมาชิกฝ่ายกบฏถูกสังหารไป 79 ราย หลังเกิดเหตุบุกโจมตีฐานทัพ 3 แห่งเมื่อวันศุกร์ (11) ที่ผ่านมา

โฆษกกองทัพบุรุนดียังแถลงเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากสมาชิกกลุ่มกบฏที่ถูกสังหารได้ 79 รายแล้ว ทางกองทัพสามารถจับกุมสมาชิกฝ่ายกบฏได้อีก 45 รายและยึดอาวุธปืนซึ่งไม่มีการเปิดเผยชนิดได้อีก 97 กระบอก แต่ในขณะเดียวกัน ทางกองกำลังผสมร่วมทหาร-ตำรวจของบุรุนดีก็ต้องสูญเสียกำลังพลของตนไป 8 นาย และมีกำลังพลได้รับบาดเจ็บอีก 21 นายจากเหตุรุนแรงระลอกล่าสุดนี้

รายงานข่าวระบุว่า มีเสียงปืนดังขึ้นทั่วกรุงบูจุมบูรา เมืองหลวงของบุรุนดีตลอดทั้งวันศุกร์ (11) หรือเพียง 1 วันหลังจากที่ทางการบุรุนดีออกมาประกาศว่า พบความพยายามในการจัดตั้งกองกำลังติดอาวุธของ “ผู้ไม่หวังดี” กลุ่มหนึ่ง เพื่อก่อความรุนแรงและบ่อนทำลายความมั่นคงของประเทศ

คำแถลงของโฆษกกองทัพบุรุนดีระบุว่า กองกำลังติดอาวุธดังกล่าวมีความเกี่ยวข้องกับความพยายามบุกเข้าปล้นอาวุธปืนและกระสุนจากฐานทัพทั้ง 3 แห่ง รวมถึงที่ตั้งของวิทยาลัยทางทหารแห่งหนึ่งที่เมืองมูซากาสำหรับนำไปใช้ก่อความรุนแรงที่มีเจ้าหน้าที่รัฐและประชาชนเป็นเป้าสังหาร

ก่อนหน้านี้เมื่อวันที่ 30 พฤศจิกายนที่ผ่านมา บัน คีมูน เลขาธิการใหญ่องค์การสหประชาชาติ ซึ่งเป็นชาวเกาหลีใต้ ระบุว่ากำลังพิจารณาแผนส่งกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นเข้าไปยังบุรุนดี เพื่อรับมือกับความรุนแรงในประเทศนี้ ท่ามกลางความพยายามทางการทูตที่ต้องการผลักดันให้เกิดกระบวนการเจรจา ระหว่างคู่ขัดแย้งฝ่ายต่างๆ ก่อนจะเกิดสงครามกลางเมืองเต็มรูปแบบ

เลขาธิการใหญ่สหประชาชาติเสนอ 3 ทางเลือกในการแก้วิกฤตในบุรุนดี ผ่านทางจดหมายที่ถูกส่งตรงถึงที่ประชุม 15 ชาติสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UN Security Council) เพื่อหาทางยับยั้งเหตุนองเลือดในบุรุนดี โดย 3 ทางเลือกที่บันนำเสนอในครั้งนี้ รวมถึงการส่งกองกำลังรักษาสันติภาพของยูเอ็นเข้าไปดูแลความสงบเรียบร้อย, การตั้งทีมผู้เชี่ยวชาญพิเศษ เพื่อจับตาสถานการณ์การละเมิดสิทธิมนุษยชนในบุรุนดี และการผลักดันกระบวนการเจรจาสันติภาพในบุรุนดีให้เป็นรูปเป็นร่าง

“ความรุนแรงที่เกิดขึ้นในบุรุนดีได้พุ่งขึ้นสู่ระดับที่น่าตื่นตระหนก และการพูดคุยหารือกันเพื่อยุติความรุนแรงนี้จะต้องถูกจัดให้เป็นสิ่งที่มีความสำคัญเป็นลำดับแรก โดยทางสหประชาชาติจะหาหนทางเพื่อบรรลุเป้าหมายนี้ร่วมกับหุ้นส่วนในภูมิภาค เพื่อหยุดยั้งสถานการณ์ด้านความมั่นคงในบุรุนดีที่เลวร้ายย่ำแย่ลง และป้องกันการขยายวงกว้างของความรุนแรงซึ่งอาจทำให้เกิดความเป็นไปได้ในการเกิดสงครามเต็มรูปแบบ” เลขาธิการใหญ่ยูเอ็นกล่าวผ่านจดหมาย

ทั้งนี้ บุรุนดีได้ถลำเข้าสู่วิกฤตความรุนแรงนับตั้งแต่เมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา หลังจากที่ประธานาธิบดีปิแอร์ เอ็นคุรุนซิซา พยายามแก้บทบัญญัติในรัฐธรรมนูญ เพื่อขยายอำนาจให้ตัวเองได้อยู่ในตำแหน่งผู้นำประเทศต่อไป อีกทั้งยังดึงดันจัดการเลือกตั้งที่ทางคณะผู้สังเกตการณ์จากยูเอ็นระบุว่า ไม่มีทั้งความน่าเชื่อถือและความยุติธรรม เพื่อให้ตัวเองได้รับชัยชนะ เป็นเหตุให้ประชาชนจำนวนมากออกมาแสดงพลังต่อต้าน จนเกิดเหตุรุนแรงที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตไปอย่างน้อย 240 รายขณะที่ชาวบุรุนดีอีกมากกว่า 200,000 รายต้องหลบหนีออกนอกประเทศ






กำลังโหลดความคิดเห็น