รอยเตอร์ / เอเจนซีส์ / MGR online - ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเยอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนีเรียกร้องในวันเสาร์ (26 ธ.ค.) ให้ชาติในยุโรปยกระดับความเข้มงวดในการควบคุมพรมแดนของตน หลังก่อนหน้านี้มีรายงานการพบหนังสือเดินทางซีเรียปลอม อยู่ในความครอบครองของนักรบกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) ที่แฝงตัวปะปนเข้ามายังยุโรป กับคลื่นผู้อพยพนับล้านจากตะวันออกกลาง
ฟรังค์-วัลเทอร์ ชไตน์ไมเยอร์ รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนี เผยถึงเรื่องดังกล่าวระหว่างการให้สัมภาษณ์กับสื่อสิ่งพิมพ์ในเครือ “Funke Medien” โดยระบุว่า ถือเป็นเรื่องที่มีความสำคัญอย่างยิ่งยวดที่บรรดาชาติในยุโรป โดยเฉพาะชาติที่เป็นสมาชิกของสหภาพยุโรป (อียู) จะต้องเพิ่มระดับความเข้มงวดในการควบคุมพรมแดนของตน และสอดส่องบุคคลที่เดินทางผ่านทั้งขาเข้าและออกจากยุโรป
นอกเหนือจากการเพิ่มความเข้มงวดในการควบคุมแนวพรมแดนแล้ว รัฐมนตรีต่างประเทศของเยอรมนียังระบุว่า ทางคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารของสหภาพยุโรป มีความจำเป็นต้องเพิ่มอำนาจและขยายบทบาทให้กับหน่วยงานกำกับดูแลพรมแดนของอียูอย่าง “ฟรอนเท็กซ์” ให้มากกว่าที่เป็นอยู่
ยิ่งไปกว่านั้น ชไตน์ไมเยอร์ยังยืนกรานว่า สหภาพยุโรปตัดสินใจได้อย่างถูกต้องและมีความเหมาะสมแล้วที่เลือกจ่ายผลตอบแทนและมอบสิทธิประโยชน์ทางเศรษฐกิจให้แก่ตุรกี ในฐานะที่ตุรกีเป็น “ประเทศหน้าด่าน” ในการรับมือกับคลื่นผู้อพยพจากตะวันออกกลาง โดยระบุว่าการเพิ่มความร่วมมือระหว่างยุโรปกับตุรกี จะถือเป็นกุญแจสำคัญในการสกัดกั้นการไหลบ่าของผู้อพยพได้ในอนาคต
ความเคลื่อนไหวผ่านสื่อล่าสุดของรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีมีขึ้นภายหลังจากที่เมื่อช่วงต้นเดือนที่ผ่านมา ทางสหภาพยุโรปประกาศจะเพิ่มงบประมาณด้านการปกป้องพรมแดนของตนอีกเกือบ 3 เท่าตัว และประกาศจะสร้างกองกำลังเคลื่อนที่เร็วหน่วยใหม่ ที่มีจำนวนเจ้าหน้าที่ราว 1,500 นาย สำหรับรับมือกับวิกฤตผู้อพยพในอนาคต
ทั้งนี้ ตลอดทั้งปี 2015 ยุโรปต้องเผชิญกับการไหลบ่าของคลื่นผู้อพยพจำนวนมากกว่า 1 ล้านคน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวมุสลิมและเป็นผู้หลบหนีภัยสงครามจากภูมิภาคตะวันออกกลาง
อย่างไรก็ดี เหตุก่อวินาศกรรมอย่างน้อย 6 จุดกลางกรุงปารีสของฝรั่งเศสเมื่อช่วงกลางเดือนพฤศจิกายน ส่งผลทำให้รัฐบาลของหลายประเทศในยุโรป รวมถึงพลเมืองในประเทศสมาชิกอียูจำนวนมาก เริ่มตั้งคำถามถึงความเหมาะสมของนโยบายเปิดประตูรับผู้อพยพที่มีรัฐบาลเยอรมนีเป็นตัวตั้งตัวตี หลังจากเป็นที่แน่ชัดแล้วว่ามีสมาชิกกลุ่มติดอาวุธสุดโต่งหลายกลุ่มซึ่งรวมถึงกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) จากซีเรียแฝงตัวปะปนกับผู้อพยพเข้าสู่แผ่นดินยุโรปเพื่อมาก่อเหตุรุนแรง