เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีนเรนทรา โมดี แห่งอินเดีย สร้างความตกตะลึงด้วยการไปเยือน “ปากีสถาน” อย่างเงียบๆ ในวันคริสต์มาส ซึ่งถือเป็นการเหยียบแผ่นดินปากีสถานของผู้นำภารตะครั้งแรกในรอบกว่า 10 ปี และถูกมองว่าเป็นสัญญาณดีซึ่งบ่งชี้ถึงการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่าง 2 ชาติคู่อริที่ต่างมีอาวุธนิวเคลียร์ในครอบครอง
โมดีทวีตข้อความประกาศข่าวให้สาธารณชนทราบขณะอยู่ที่เมืองหลวงอัฟกานิสถาน โดยระบุว่าตนได้เดินทางไปยังเมืองลาฮอร์ของปากีสถานเพื่อพบกับนายกรัฐมนตรี นาวาซ ชารีฟ ซึ่งกำลังเฉลิมฉลองงานครบรอบวันเกิด และพิธีสมรสของหลานสาว
นักวิเคราะห์มองว่า การสนทนาระหว่างผู้นำทั้งสองซึ่งกินเวลาราว 2 ชั่วโมงครึ่ง ถือเป็นนิมิตหมายอันดีในแง่ของความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ
เจ้าหน้าที่การทูตทั้งสองฝ่ายมีกำหนดพบปะกันในเดือน ม.ค.ที่กรุงอิสลามาบัด ซึ่งสะท้อนถึงความสัมพันธ์ที่เริ่มอบอุ่นระหว่างสองชาติเพื่อนบ้านที่เคยทำศึกสงครามกันมาแล้วถึง 3 ครั้ง รวมถึงมีเหตุกระทบกระทั่งชายแดนอีกนับครั้งไม่ถ้วน นับตั้งแต่ได้รับเอกราชจากอังกฤษในปี 1947
สถานีโทรทัศน์ได้เผยแพร่ภาพเครื่องบินจัมโบเจ็ตของกองทัพอากาศอินเดียลงจอดที่สนามบินนานาชาติ อัลลามา อิกบัล ในเมืองลาฮอร์ เมื่อช่วงบ่ายวันศุกร์ (25 ธ.ค.) โดยนายกฯ ชารีฟ ได้เดินทางโดยเฮลิคอปเตอร์ไปถึงสนามบินล่วงหน้าไม่นานนัก
ผู้นำปากีสถานและคณะรัฐมนตรีได้ให้การต้อนรับโมดีลงจากเครื่องบิน ขณะที่เหล่านายทหารระดับสูงต่างก็ยืนเรียงแถวต้อนรับตลอดแนวพรมแดง
สองผู้นำซึ่งต่างแต่งกายด้วยชุดประจำชาติของตน ได้เดินไปขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของ ชารีฟ เพื่อเดินทางไปยังบ้านพักผู้นำปากีสถานทางตอนใต้ของเมืองลาฮอร์
โมดี และ ชารีฟ เดินเคียงคู่กันไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส และนั่งสนทนากันในห้องรับแขกของ ชารีฟ จากนั้นไม่นานนายกฯ อินเดียก็เดินทางออกจากสนามบินเมืองลาฮอร์ โดยมีผู้นำปากีสถานไปส่งถึงที่
ไอซาซ อะหมัด เชาธรี รัฐมนตรีต่างประเทศปากีสถาน ได้ออกมาให้สัมภาษณ์ภายหลังว่า การมาเยือนของผู้นำอินเดียครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงความเป็นมิตรอย่างแท้จริง
“ท่านทั้งสองเห็นตรงกันว่า เป็นเรื่องสำคัญยิ่งที่ผู้นำอินเดียและปากีสถานจะต้องเข้าใจมุมมองของกันและกัน ประตูแห่งความเจริญรุ่งเรืองจึงจะเปิดสู่ประชาชนของเราได้”
เชาธรี เผยด้วยว่า โมดี ได้มอบการ์ดอวยพรวันเกิดแก่ ชารีฟ ท่ามกลางบรรยากาศการพบปะที่ “ชื่นมื่นและเป็นกันเอง” โดยหลังจากนี้ รัฐมนตรีต่างประเทศทั้งสองฝ่ายก็จะร่วมหารือกันที่กรุงอิสลามาบัดในช่วงเดือนหน้า
ด้าน สุชมา สวาราช รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศอินเดีย ก็ได้ทวีตข้อความว่า “ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศเพื่อนบ้านควรเป็นเช่นนี้”
อดีตนายกรัฐมนตรีอะตัล พิหารี วัชปายี แห่งอินเดีย เคยไปเยือนปากีสถานเมื่อปี 2004 ซึ่งทำให้นิวเดลีและอิสลามาบัดคลายความบาดหมางลงไปได้บ้าง
ในเดือนนี้ รัฐบาลอินเดียและปากีสถานได้บรรลุข้อตกลงเปิดเจรจาระดับสูงว่าด้วยเรื่องสันติภาพและความมั่นคง ตลอดจนปัญหาข้อพิพาทเขตแดนที่จะครอบคลุมถึงกรณีแคชเมียร์