xs
xsm
sm
md
lg

สุดเศร้า!!สาวอินเดียใบ้พลัดถิ่นจำครอบครัวรัฐพิหารไม่ได้ – นายกฯอินเดียเก้อ NGO ปากีฯปฎิเสธรับ 150,000 ดอลลาร์ บริจาคขอบคุณที่ช่วยดูแล

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


รอยเตอร์/เอเจนซีส์ – มูลนิธิเอธี (Edhi Foundation) องค์กรการกุศลสาธารณะปากีสถานออกแถลงการณ์ปฎิเสธเงินบริจาคร่วม 150,000 ดอลลาร์จากนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี หลังจากที่คีตา (Geeta)หญิงสาวฮินดูพลัดถิ่นที่พิการทั้งหูหนวกและเป็นใบ้อายุราว 20 ปี ภายใต้การดูแลร่วม 15 ปีนับตั้งแต่อายุได้7- 8 ปี สามารถเดินทางกลับอินเดียได้สำเร็จ แต่ทว่าในการพบปะครอบครัวจากรัฐพิหารในวันจันทร์(26) คีตากลับไม่สามารถจดจำคนเหล่านั้นได้

รอยเตอร์รายงานเมื่อวานนี้(27)ว่า โฆษกมูลนิธิเอธี (Edhi Foundation) องค์กรการกุศลสาธารณะปากีสถานออกแถลงการณ์ล่าสุดในวันอังคาร(27) ปฎิเสธรับเงินบริจาคจากนายกรัฐมนตรีอินเดีย นเรนทรา โมดี จำนวน 150,000 ดอลลาร์

“เราปฎิเสธเงินบริจาคพร้อมกับคำขอบคุณจากใจไปยังนายกรัฐมนตรีอินเดีย แต่ทว่าการรับเงินบริจาคจากผู้นำประเทศไม่อยู่ในหลักการดำเนินงานของมูลนิธิ” อันวาร์ คัซมี (Anwar Kazmi) โฆษกมูลนิธิเอธีแถลง

สื่ออินเดีย NDTV รายงานเพิ่มเติมว่า อับดุล ซัตตาร์ เอธี (Abdul Sattar Edhi) ผู้เป็นผู้ก่อตั้ง และบริหารงานมูลนิธิไม่หวังผลกำไรแห่งนี้ กล่าวขอบคุณโมดี แต่ปฎิเสธรับเงินความช่วยเหลือ

ซึ่งรอยเตอร์ชี้ว่า มูลนิธิเอธีขึ้นชื่อในเรื่องความเป็นอิสระ และไม่หวังพึ่งเงินบริจาคก้อนโตจากผู้สนับสนุนรายใหญ่ หรือจากรัฐ

โดยทางมูลินิธิได้ดูแลเด็กสาวชาวฮินดูพลัดถิ่นนิรนามที่หลงเข้ามาในปากีสถานตามลำพังผ่านการโดยสารรถไฟสาย Samjhauta Express เมื่อ 15 ปีก่อนหน้านั้นในขณะที่เธอยังเป็นเพียงเด็กหญิงตัวเล็กๆอายุราว 7-8 ปี จากการรายงานของ NDTV ซึ่งเป็นเพราะเธอไม่มีเอกสารประจำตัว และพิการทั้งหูหนวกและเป็นใบ้จึงไม่สามารถสื่อสารใดๆได้

สื่ออินเดียรายงานว่า ในขณะนั้นเจ้าหน้าที่ป่าไม้ปากีสถานเป็นผู้พบเธอบนขบวนรถไฟซึ่งจอดบริเวณชานชลาของสถานีรถไฟลาฮอร์ และต่อมาทางมูลนิธิเอธีได้รับอุปการะตัวเด็กหญิงคีตา ซึ่งเป็นชื่อที่ทางมูลนิธิตั้งให้ และเธอได้ย้ายไปอาศัยอยู่ที่การาจี ในปากีสถานหลังจากนั้น

แต่ทว่าวันจันทร์(26)ที่ผ่านมา คีตาที่ปัจจุบันนี้ในวัย 20 ปีสามารถเดินทางกลับบ้านในอินเดียได้สำเร็จโดยผ่านการประสานงานทางการทูต และได้พบกับนายกรัฐมนตรีอินเดีย โมดี พร้อมกับอ้อมกอดที่อบอุ่นในกรุงนิวเดลีหลังจากลงจากเครื่อง

ซึ่งโมดีได้ทวีตกล่าวต้อนรับเธอว่า “ขอต้อนรับกลับบ้าน “คีตา” ช่างเป็นสิ่งที่ดีจริงๆที่สามารถนำคุณกลับสู่อินเดียได้สำเร็จ ผมรู้สึกเป็นสุขที่ได้ใช้เวลากับคุณในวันนี้”

ในวันจันทร์(26)เป็นวันที่คีตาได้พบกับจานาร์ธาน มาฮาโต ( Janardhan Mahato)ชายอินเดีย ประกอบอาชีพชาวนา และครอบครัวของเขาจากรัฐพิหาร ที่ได้ใช้รูปยืนยันอ้างว่า เธอเป็นญาติที่พลัดหลงไปในช่วงงานรื่นเริงของหมู่บ้าน แต่ทว่าจากการรายงานของสื่ออินเดียพบว่า คีตาไม่สามารถจดจำบุคคลเหล่านั้นได้

อินเดียนเอ็กซเพรส สื่ออินเดียอีกแห่งรายงานเพิ่มเติมว่า คีตาและครอบครัวจากรัฐพิหารได้ใช้เวลาร่วมกันนานถึง 30 นาที ซึ่งในระหว่างนี้มีรายงานถึงบรรยากาศในการพบปะว่า เป็นไปด้วยความเงียบอย่างน่าอึดอัด โดยทางผู้เกี่ยวข้องได้แนะนำให้ทางครอบครัวรัฐพิหารเอ่ยถึงเพลงกล่อมเด็กในวัยเยาว์ของคีตา หรือเรื่องราวต่างๆในสมัยเด็กเล่าให้เธอฟัง เพื่อช่วยรื้อฟื้นความจำ

แหล่งข่าวที่อยู่ในเหตุการณ์พบปะได้ให้ข้อมูลว่า “เราต่างรอนาทีนั้นด้วยความตื่นเต้นที่คีตาจะได้พบกับครอบครัวอีกครั้ง แต่ทว่าหลังจากที่มีการพบหน้าเกิดขึ้นจริงๆ รวมไปถึงการสวมกอด และพูดคุยทักทายแล้ว คีตาปฎิเสธที่จะชี้ตัวยืนยันบุคคลเหล่านั้นเป็นญาติของเธอ”

ด้านมาฮาโต ซึ่งอ้างเป็นญาติกล่าวให้สัมภาษณ์แสดงความรู้สึกด้วยอาการมึนงงว่า “คีตาดื้อดึงมาก หรือผมอาจจะแก่จนทำให้เธอจำไม่ได้ก็ไม่รู้”

และรอยเตอร์รายงานต่อว่า เมื่อวานนี้(27) กระทรวงต่างประเทศอินเดียแถลงว่า หากผลตรวจดีเอ็นเอออกมาไม่ตรงกับครอบครัวในรัฐพิหาร ทางรัฐบาลอินเดียจะส่งคีตาไปให้กับหน่วยงานไม่แสวงหาผลกำไรดูแลจนกว่าจะสามารถติดตามหาครอบครัวที่แท้จริงของเธอจนพบ





จานาร์ธาน มาฮาโต ( Janardhan Mahato)ชายอินเดีย ประกอบอาชีพชาวนา และครอบครัวของเขาจากรัฐพิหาร
กำลังโหลดความคิดเห็น