เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ แห่งญี่ปุ่น เมื่อวันพฤหัสบดี (24 ธ.ค.) สั่งการให้รัฐมนตรีต่างประเทศของเขาเดินทางเยือนเกาหลีใต้ เพื่อผลักดันความพยายามคลี่คลายข้อพิพาทอันขมขื่นกรณีสตรีโสมขาวถูกทหารแดนปลาดิบบังคับเป็นทาสบำเรอกามระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2
สถานีโทรทัศน์แห่งรัฐเอ็นเอชเครายงานว่า นายอาเบะบอกกับนายฟูมิโอะ คิชิดะ รัฐมนตรีต่างประเทศ ให้เดินทางเยือนโซลในช่วงปลายปีนี้ ขณะที่เขามีเป้าหมายคลี่คลายประเด็นผู้หญิงบำเรอกาม
โซลเรียกร้องคำขอโทษอย่างเป็นทางการและค่าชดเชยที่ผู้หญิงเกาหลีถูกบังคับรับใช้ในฐานะทาสทางเพศในโรงโสเภณีของกองทัพญี่ปุ่นระหว่างสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่โตเกียวยืนกรานว่าข้อพิพาทนี้ควรตกลงกันภายใต้ข้อตกลงสู่ภาวะปกติปี 1965 ที่โตเกียวต้องจ่ายเงินรวมกว่า 800 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นค่าช่วยเหลือหรือให้เงินกู้ยืมแก่อดีตอาณานิคม
แผนส่งนายคิชิดะไปยังเกาหลีใต้ สะท้อนให้เห็นเป้าหมายของนายอาเบะในความพยายามจัดเตรียมหาข้อยุติสุดท้าย สถานีโทรทัศน์เอ็นเอชเครายงาน พร้อมระบุว่าในการพบปะหารือดังกล่าว จะมุ่งเน้นความสำคัญไปที่รัฐมนตรีต่างประเทศจะสามารถบรรลุข้อตกลงใดได้บ้าง
ด้านสำนักข่าวจิจิเพรสรายงานว่า เวลานี้อยู่ระหว่างขั้นตอนของการเตรียมการวางกำหนดการเยือนเป็นเวลา 1 วัน ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าการหารือดังกล่าวน่าจะมีขึ้นราวๆ วันจันทร์หน้า (28 ธ.ค.) อย่างไรก็ตาม กระทรวงต่างประเทศยังไม่ออกมายืนยันต่อรายงานข่าวนี้
ดูเหมือนว่าโตเกียวกำลังขยายมาตรการด้านมนุษยธรรมแก่บรรดาเหยื่อ อย่างเช่นความช่วยเหลือด้านการเงิน ในความพยายามฝ่าทางตันเพื่อคลี่คลายประเด็นนี้
ในความพยายามบรรลุข้อตกลง สำนักข่าวจิจิเพรสรายงานว่า โตเกียวปรารถนายืนยันถึงการร่วมมือกับเกาหลีใต้สำหรับทำความตกลงหาข้อยุติสุดท้าย เพื่อประเด็นนี้จะไม่ถูกหยิบยกขึ้นมาอีก
ชะตากรรมของสตรีทาสบำเรอกามระหว่างสงครามโลกเป็นประเด็นอ่อนไหวอย่างยิ่งในเกาหลีใต้ และมันคือหนึ่งในต้นตอสำคัญที่ก่อความยุ่งเหยิงแก่ความสัมพันธ์ระหว่างโซลและโตเกียวมาหลายทศวรรษ
อย่างไรก็ตาม เมื่อเร็วๆ นี้ประธานาธิบดีพัค กึน-ฮเย ของเกาหลีใต้และนายอาเบะ ได้แสดงเจตนาว่าต้องการคลี่คลายข้อพิพาทนี้ระหว่างการประชุมทวิภาคีเป็นครั้งแรกเมื่อเดือนก่อน ซึ่งนับตั้งแต่นั้นเหล่าคณะทูตระหว่างสองชาติก็นัดพบปะหารือกันเพื่อแสวงหาทางออก