เอเจนซีส์ - หน่วยกู้ภัยที่เร่งขุดค้นใต้ทะเลโคลน พบผู้รอดชีวิต 1 คนเมื่อวันพุธ (23 ธ.ค.) หรือหลังเหตุดินถล่มครั้งร้ายแรงในเสิ่นเจิ้นผ่านไป 3 วัน ขณะที่คณะรัฐมนตรีจีนจัดตั้งทีมสอบสวนเหตุการณ์นี้ที่ถือเป็นภัยพิบัติในอุตสาหกรรมครั้งล่าสุดของประเทศ
เทียน เจ๋อหมิง หนุ่มวัย 19 ปี สามารถรอดชีวิตหลังจากถูกฝังอยู่ในโคลนนานเกือบ 72 ชั่วโมง หลังจากดินและเศษซากจากการก่อสร้างกองมหึมาถล่มทับอาคารกว่า 30 หลังในนิคมอุตสาหกรรมเหิงไถอี้ว์ในนครเสิ่นเจิ้น เมืองทางใต้ของจีนที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ตั้งแต่ช่วงเช้าวันอาทิตย์ (20 ธ.ค.)
เด็กหนุ่มผู้นี้ใช้ก้อนหินเคาะกับเศษซากปรักหักพังกระทั่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยไปพบ เจ้าหน้าที่ผู้หนึ่งบอกว่า เทียนขาหักแต่มีกำลังใจดีมาก ขณะที่รายงานล่าสุดระบุว่าเทียนเข้ารับการผ่าตัดและมีอาการทรงตัว อย่างไรก็ดี แพทย์อาจต้องตัดเท้าของเขา
เทียนได้รับการยืนยันว่า เป็น 1 ใน 76 คนที่ทางการระบุว่า เป็นผู้สูญหายในภัยพิบัติครั้งนี้
หน่วยกู้ภัยของมณฑลกวางตุ้งเปิดเผยว่า ชายคนที่ 2 ที่รอดชีวิตและค้นพบเมื่อเช้าวันพุธ กลับเสียชีวิตในเวลาต่อมา ไชน่า ยูธ เดลี่ยังรายงานว่า พบร่างผู้เสียชีวิตอีกรายในช่วงบ่ายวันเดียวกัน รวมแล้วมีผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยัน 3 ราย
คาดกันว่า จำนวนผู้เสียชีวิตจะเพิ่มขึ้นจำนวนมาก หลังผ่าน “ช่วงทอง” หรือ 72 ชั่วโมงที่โอกาสในการรอดชีวิตมีสูงสุด
เหตุดินถล่มครั้งนี้เป็นอุบัติเหตุร้ายแรงครั้งล่าสุดในประเทศที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดในโลกแห่งนี้ และเกิดขึ้นหลังเหตุคลังเก็บสารเคมีในเมืองอุตสาหกรรมเทียนจินระเบิดที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตเกือบ 200 รายเพียงไม่กี่เดือน
ชาวจีนจำนวนมากไม่พอใจต่อการขาดแคลนมาตรฐานและความหย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมาย ซึ่งเชื่อว่าเป็นสาเหตุเบื้องหลังเหตุดินถล่มในเสิ่นเจิ้น รวมทั้งภัยพิบัติหลายครั้งก่อนหน้านี้
หนังสือพิมพ์ของกระทรวงที่ดินและทรัพยากรจีนระบุว่า เหตุการณ์ล่าสุดเกิดจากการจัดเก็บขยะจากการก่อสร้างอย่างไม่เหมาะสม กล่าวคือมีการลักลอบขนดินไปถมทิ้งสูงถึง 100 เมตรในบริเวณที่เป็นเหมืองหินเก่า และดินเหล่านั้นแปรสภาพเป็นโคลนหลังฝนตกลงมาอย่างต่อเนื่องในช่วงเช้าวันอาทิตย์
สถานีซีซีทีวีของทางการจีนรายงานเมื่อวันพุธว่า คณะรัฐมนตรีจีนได้ตั้งทีมสอบสวนอุบัติภัยล่าสุด โดยมีรัฐมนตรีกระทรวงที่ดินและทรัพยากรเป็นประธาน
ทั้งนี้ เอกสารบนเว็บไซต์ของเขตก่วงหมิงใหม่ที่เกิดเหตุดินถล่มระบุว่า เจ้าหน้าที่รับรู้ถึงปัญหาการจัดเก็บขยะและเรียกร้องให้บริษัทผู้รับผิดชอบแก้ไขตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา
กล่าวคือในประกาศลงวันที่ 10 กรกฎาคม เจ้าหน้าที่ระบุว่า สถานที่เก็บขยะไม่ได้ดำเนินการตามแผนที่ทางการอนุมัติ และสั่งให้ฮองเกา คอนสตรักชัน เวสต์ ดัมป์ “เร่งมือ” แก้ไข
เดือนกันยายน ทางการออกเอกสารเตือนฉบับที่ 2 โดยตั้งข้อสังเกตว่า ใบอนุญาตจัดการขยะหมดอายุ และระบุชัดเจนให้หยุดนำขยะไปทิ้งในบริเวณดังกล่าว
ทั้งนี้ สื่อเสิ่นเจิ้นเตือนว่า เมืองแห่งนี้กำลังขาดแคลนพื้นที่จัดเก็บขยะจากการก่อสร้าง โดยเฉพาะอย่างยิ่งขณะที่เมืองกำลังดำเนินโครงการก่อสร้างรถไฟใต้ดินขนาดใหญ่
