เอเจนซี - จีนเผยยอดผู้สูญหายพุ่งเกือบหนึ่งร้อยราย อาคารพังพินาศมากกว่า 30 หลัง จากเหตุดินถล่มรุนแรง บริเวณนิคมอุตสาหกรรมแห่งหนึ่งของนครเซินเจิ้น เมื่อช่วงใกล้เที่ยงวานนี้ (20 ธ.ค.) โดยชี้สาเหตุมาจากการปะทุของ “โคลนของเสีย” ที่ถูกกองทับถมเท่าภูเขา
เจ้าหน้าที่กู้ภัยยังคงเร่งทำงานแข่งกับเวลา เพื่อค้นหาผู้รอดชีวิตจากกรณีดินถล่ม ณ นิคมอุตสาหกรรมเหิงไถอี้ว์ เขตก่วงหมิงใหม่ เมื่อราว 11.40 น. ตามเวลาท้องถิ่นวันอาทิตย์ ซึ่งนายหลิว ชิงเซิง รองผู้ว่าการนครเซินเจิ้นเผยว่ากินพื้นที่มากกว่า 380,000 ตารางเมตร หรือเทียบเท่าสนามฟุตบอล 60 สนาม และพื้นที่หลายจุดก็มีความลึกถึง 10 เมตร
สำนักข่าวซินหวารายงานว่า ทีมเจ้าหน้าที่ 3,000 นาย จากเซินเจิ้นและเมืองใกล้เคียงของมณฑลกวางตุ้ง พร้อมสุนัขดมกลิ่นและโดรน ออกปฏิบัติภารกิจช่วยชีวิต หากพบสัญญานชีพที่จุดใดก็จะปักธงสีแดง และนำรถแทรกเตอร์มาขุดเจาะภายใต้การควบคุมของเจ้าหน้าที่กู้ภัย
ขณะที่ตัวเลขผู้สูญหายอย่างเป็นทางการ ซึ่งประกาศเมื่อช่วงเช้าอยู่ที่ 91 ราย แบ่งเป็นชาย 59 ราย และหญิง 32 ราย ส่วนความเสียหายของสิ่งปลูกสร้างพบอาคารถูกทำลายทั้งหมด 33 หลัง ประกอบด้วยโรงงาน 14 หลัง สำนักงาน 2 หลัง หอพัก 3 หลัง อาคารขนาดเล็ก 13 หลัง และโรงอาหารหนึ่งหลัง
นอกจากนั้นสถานีโทรทัศน์กลางแห่งชาติจีน (ซีซีทีวี) รายงานว่าช่วงเวลาใกล้เคียงกับเหตุดินถล่ม ส่วนหนึ่งของท่อส่งก๊าซธรรมชาติสายตะวันตก-ตะวันออก ก็เกิดการระเบิดขึ้นมา แต่ไม่ได้ชี้ชัดว่าเป็นผลพวงจากเหตุดินถล่มหรือไม่ โดยปิโตรไชน่า (PetroChina) ผู้ผลิตน้ำมันและก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ของจีน ซึ่งเป็นเจ้าของท่อแถลงว่า ท่อส่งก๊าซฯ ความยาว 400 เมตร ไม่มีก๊าซเหลืออยู่แล้ว และจะมีการสร้างท่อชั่วคราวทดแทน เพื่อลดผลกระทบต่อผู้ใช้งาน
ด้านหน่วยงานพิทักษ์สันติราษฎร์ท้องถิ่นจัดส่งตำรวจในเครื่องแบบและตำรวจติดอาวุธลงประจำการ เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยบริเวณที่เกิดเหตุ โดยเจ้าหน้าที่จะยืนคุ้มกันเป็นจุดทุกระยะ 5-10 เมตร ห้ามคนงานหรือชาวบ้านเข้าพื้นที่ประสบภัยเด็ดขาด แม้บางส่วนจะขอเข้าไปเก็บเสื้อผ้ามาเพิ่มความอบอุ่นในช่วงฤดูหนาวก็ตาม
กระทรวงที่ดินและทรัพยากรธรรมชาติของจีนระบุว่า เหตุการณ์เกิดขึ้นหลังจากมวลดินและโคลนของเสีย ที่ถูกขุดและนำมากองทิ้งไว้จนกลายเป็นเทือกเขาสูงเกือบเท่าตึก 20 ชั้น ถล่มทลายลงมาอย่างรวดเร็ว ด้วยปัจจัยเกื้อหนุนจากขนาดอันมหึมาและความลาดชันสูงของกองดิน
กรณีการขนถ่ายของเสียจากโครงการก่อสร้างต่างๆ มาทิ้งในสถานที่ที่ได้รับอนุญาตจากทางการนั้น สร้างความวิตกกังวลแก่ชาวบ้านที่อาศัยอยู่ละแวกข้างเคียงมานานกว่าสองปีแล้ว โดยเจ้าของธุรกิจเครื่องดื่มรายหนึ่งบอกกับเซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์ สื่อฮ่องกงว่า “ชาวบ้านร้องเรียนปัญหามานาน แต่ก็ไม่เคยมีการแก้ไขอะไรเลย”
นายหวัง เจินซิน อดีตหัวหน้าวิศวกรของบริษัท เซี่ยงไฮ้ เมโทร คอนสตรัคชั่น แสดงความเห็นว่าหายนะครั้งนี้ มี “มนุษย์” เป็นต้นเหตุ ด้วยดินไม่ได้ถล่มมาจากภูเขาตามธรรมชาติ แต่เป็นดินโคลนขนาดยักษ์ที่ล้นทะลักออกมา เพราะแรงดันจากอีกด้านหนึ่งของเนินดินที่ต้องรับน้ำหนักเกินควร
ทั้งนี้ เซาท์ไชน่ามอร์นิ่งโพสต์อ้างเอกสารซึ่งเผยแพร่โดยเจ้าหน้าที่รัฐเขตก่วงหมิงใหม่ ระบุคำสั่งปิดพื้นที่ดังกล่าวตั้งแต่ห้าเดือนก่อน และคำสั่งปรับปรุงสภาพเพื่อยกระดับความปลอดภัย หลังจากการตรวจสอบประจำเดือนหลายครั้งของทางการ
เอกสารระบุว่า บริษัท หงเอ้า คอนสตรัคชั่น เวสต์ ดัมพ์ ผู้ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการจัดการขยะของเสีย ที่ได้รับอนุมัติแผนงานระยะเวลาหนึ่งปี เมื่อเดือนก.พ. ปี 2557 ถูกตรวจพบการดำเนินงานนอกคำอนุมัติ และขัดกับกฎความปลอดภัยและความยั่งยืนในเดือนก.ค. ที่ผ่านมา
เจ้าหน้าที่จึงออกคำสั่งให้บริษัทฯ ดำเนินการปรับปรุง และยื่นขอใบอนุญาตอีกครั้งในเดือนก.ย. แต่ก็ล้มเหลวจะปฏิบัติตามคำสั่ง และยังเปิดใช้งานพื้นที่ทิ้งของเสียดังกล่าวต่อไป แม้จะมีเสียงวิจารณ์และร้องเรียนความไม่ปลอดภัยจากชาวบ้านท้องถิ่นจำนวนมากก็ตาม