เอเอฟพี/รอยเตอร์ - ราคาน้ำมันขยับลงในวันพฤหัสบดี (17 ธ.ค.) จากดอลลาร์ที่แข็งค่าตามหลังเฟดปรับขึ้นดอกเบี้ย ปัจจัยนี้ดึงทองคำร่วงหนักแตะระดับต่ำสุดในรอบ 6 ปีกว่า ส่วนวอลล์สตรีทก็ปิดลบหนักจากแรงฉุดหุ้นกลุ่มพลังงาน
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียตหรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 57 เซ็นต์ ปิดที่ 34.95 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนกุมภาพันธ์ ลดลง 33 เซ็นต์ ปิดที่ 37.06 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ความเคลื่อนไหวของราคาน้ำมันในวันพฤหัสบดี (17 ธ.ค.) ยังอยู่ภายใต้แรงกดดันของรายงานคลังเชื้อเพลิงสำรองของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ที่เผยให้เห็นว่าสต๊อกน้ำมันดิบของประเทศเพิ่มขึ้นอย่างมาก เช่นเดียวกับสต๊อกเบนซินและน้ำมันกลั่น
ในวันพุธ (16 ธ.ค.) เช่นกัน ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) แถลงขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเป็นครั้งแรกในรอบ 9 ปี ดันดอลลาร์แข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับสกุลเงินอื่นๆ ขณะที่การแข็งค่าของดอลลาร์กัดเซาะอุปสงค์น้ำมันราคาดอลลาร์ในตลาดนานาชาติ
นอกจากนี้แล้ว ดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้นจากการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ยังฉุดให้ราคาทองคำวานนี้ (17 ธ.ค.) ปิดลบหนัก แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่ปี 2009 โดยราคาทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 27.20 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,049.60 ดอลลาร์ต่อออนซ์ หลังจากช่วงหนึ่งขยับลงไปอยู่ที่ 1,046.80 ดอลลาร์
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ในวันพฤหัสบดี (17 ธ.ค.) ร่วงลงเช่นกัน ปิดลบครั้งแรกในรอบ 3 วัน จากแรงฉุดของหุ้นกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมันขยับลงอย่างต่อเนื่อง
ดาวโจนส์ ลดลง 253.25 จุด (1.43 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.495.84 จุด เอสแอนด์พี ลดลง 31.18 จุด (1.50 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,041.89 จุด แนสแดค ลดลง 68.58 จุด (1.35 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,002.55 จุด
เอ็กซอนโมบิล และเชฟรอน สมาชิกดาวโจนส์ ปิดลบ 1.5 เปอร์เซ็นต์กับ 2.2 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับ หลังจากราคาน้ำมันกลับมาขยับลงอีกรอบ ท่ามกลางความกังวลต่อปุทานล้นตลาดและดอลลาร์ที่แข็งค่าสุดในรอบ 2 สัปดาห์
