รอยเตอร์ - รัฐมนตรีกลาโหมออสเตรเลีย มารีส เพน ระบุในวันพฤหัสบดี (17 ธ.ค.) ว่ารัฐบาลแดนจิงโจ้จะไม่ยอมก้มหัวให้กับแรงกดดันจากจีน ที่ต้องการให้ระงับการบินตรวจตราแถวทะเลจีนใต้ อันเป็นศูนย์กลางความขัดแย้งระหว่างจีนกับบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน
เพน บอกว่า ออสเตรเลียจะไม่หยุดเพราะคำเตือนจากจีน ที่ตอบสนองด้วยความไม่พอใจต่อเครื่องบินตรวจตราของออสเตรเลีย พร้อมระบุด้วยว่า การบินตรวจตราดังกล่าวคือภารกิจตามปกติ อันเป็นส่วนหนึ่งของบทบาทการช่วยเหลือดูแลรักษาเสถียรภาพและความมั่นคงในภูมิภาคนั้นของออสเตรเลีย
ทั้งนี้ หนังสือพิมพ์ "กลอบัล ไทม์" ของทางการจีน ได้เตือนออสเตรเลียว่า อย่าเข้าไปในน่านฟ้าของพื้นที่พิพาทดังกล่าวอีก พร้อมชี้ว่ามีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการตอบโต้ทางทหารหากทำอีก
"เครื่องบินของกองทัพออสเตรเลียไม่ควรจะเข้ามาในทะเลจีนใต้เพื่อจะขอมีส่วนร่วม โดยเฉพาะอย่างยิ่งคือไม่ควรจะทดสอบความอดทนของจีนด้วยการบินเข้าใกล้เกาะของจีน" สื่อแดนมังกรระบุ
"ทุกคนระมัดระวังอยู่เสมอ แต่มันคงจะน่าอายมาก ถ้าวันหนึ่งเกิดมีเครื่องบินตกจากฟ้า แล้วมันดันเกิดขึ้นกับออสเตรเลีย" สื่อของทางการจีนขู่
ก่อนหน้านี้ กระทรวงกลาโหมออสเตรเลียได้ระบุไว้เมื่อวันอังคารว่า เครื่องบินของกองทัพลำหนึ่งได้บินตรวจตราทางทะเลตามปกติเหนือทะเลจีนใต้ระหว่างวันที่ 25 พฤศจิกายน - 4 ธันวาคมที่ผ่านมา ช่วงที่ผู้บัญชาการกองเรือแปซิฟิกของสหรัฐฯ เตือนว่าเป็นไปได้ที่จะเกิดการแข่งกันสั่งสมอาวุธในภูมิภาคดังกล่าว
จีนอ้างสิทธิ์ในพื้นที่ส่วนใหญ่ของทะเลจีนใต้ ซึ่งเป็นทางผ่านของเรือพาณิชย์มากมาย รวมมูลค่าทางการค้าราว 5 ล้านล้านดอลลาร์ในแต่ละปี หนึ่งในห้าของเรือเหล่านั้นเป็นเรือที่เข้า-ออกท่าเรือสหรัฐฯ
เวียดนาม มาเลเซีย บรูไน ฟิลิปปินส์และไต้หวัน ต่างก็อ้างสิทธิ์ในบางส่วนของทะเลจีนใต้เช่นกัน
จากภาพถ่ายดาวเทียมของพื้นที่บริเวณดังกล่าว พบว่าจีนได้สร้างเกาะเทียม 7 แห่งตามแนวปะการังของหมู่เกาะสแปรตลีย์ โดยมีลานบินความยาว 3,000 เมตรอยู่บนหนึ่งในพื้นที่ของเกาะเทียมด้วย
เมื่อเดือนตุลาคม เรือพิฆาตติดตั้งขีปนาวุธลำหนึ่งของสหรัฐฯ ได้เข้าไปใกล้กับหนึ่งในบรรดาเกาะเทียมของจีน สร้างความไม่พอใจให้กับรัฐบาลแดนมังกรเป็นอย่างมาก