เอพี / เอเจนซีส์ / MGR online - สหรัฐอเมริกาและคิวบาใกล้บรรลุข้อตกลงรื้อฟื้นเส้นทางบินเชิงพาณิชย์ระหว่างกัน ถือเป็นอีกหนึ่งก้าวย่างแห่งความพยายามทางการทูตในการฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างรัฐบาลวอชิงตันและฮาวานา ที่เคยเป็นปรปักษ์ต่อกันอย่างสุดขั้วในยุคสงครามเย็น
รายงานในวันพุธ (16 ธ.ค.) ซึ่งอ้างแหล่งข่าวทางการทูตในกรุงฮาวานาเผยว่า ข้อตกลงดังกล่าวจะเปิดทางให้สายการบินสัญชาติอเมริกันทั้งหลายสามารถเริ่มเปิดเส้นทางบินและทำการบินสู่คิวบาได้อย่างเต็มรูปแบบภายในระยะเวลาไม่กี่เดือนข้างหน้า และการฟื้นเส้นทางบินเชิงพาณิชย์ระหว่างกันจะถือเป็นจุดเริ่มต้นของการกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างสหรัฐฯ และคิวบา หลังการประกาศฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกลับสู่ระดับปกติไปเมื่อขวบปีที่แล้ว
ด้านเคร์รี ฮัมฟรีย์ โฆษกกระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ แถลงในคืนวันพุธ (16) โดยระบุว่าทั้งสองประเทศได้ร่วมกันสร้างความก้าวหน้าที่สำคัญในเรื่องนี้ แต่ความก้าวหน้าใดๆ ที่เกิดขึ้นยังคงอยู่ในขั้นตอนของการเจรจาเท่านั้น
การเปิดให้บริการเที่ยวบินโดยสารเชิงพาณิชย์ระหว่างสหรัฐอเมริกาและคิวบาจะช่วยเพิ่มความสะดวกในการเดินทางระหว่างกัน และจะช่วยส่งเสริมการท่องเที่ยว ตลอดจนการขยายตัวทางธุรกิจอย่างไร้ขีดจำกัดจากที่แต่เดิมชาวอเมริกันและชาวคิวบาต้องพึ่งพาแต่เฉพาะการใช้บริการเครื่องบินเช่าเหมาลำที่มีค่าโดยสารแพงลิ่วและยังมีความไม่สะดวกในเรื่องการจองที่นั่ง ตลอดจนการขนสัมภาระระหว่างการเดินทาง
แหล่งข่าวที่เป็นเจ้าหน้าที่รัฐบาลอเมริกัน และผู้บริหารด้านการบินเผยว่า ทางการคิวบาน่าจะอนุญาตให้สายการบินสัญชาติอเมริกันทั้งหลาย โดยเฉพาะสายการบินยักษ์ใหญ่อย่าง อเมริกัน แอร์ไลน์ส, เดลต้า แอร์ไลน์ส และยูไนเต็ด แอร์ไลน์ส สามารถเปิดเส้นทางบินไปยังคิวบาได้วันละหลายสิบเที่ยวบินหากข้อตกลงนี้มีผลสมบูรณ์ในทางกฎหมาย
ความเคลื่อนไหวล่าสุดที่มีความพยายามในการทำความตกลงเพื่อฟื้นฟูการบินเชิงพาณิชย์ระหว่างทั้งสองประเทศมีขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ก่อน คิวบาและสหรัฐฯ เพิ่งบรรลุข้อตกฟื้นฟูระบบไปรษณีย์ตรงระหว่างกันเป็นครั้งแรกในรอบ 52 ปี ขณะที่ในวันพฤหัสบดีนี้ (17 ธ.ค.) ถือเป็นวาระครบรอบ 1 ขวบปีที่ประธานาธิบดีบารัค โอบามาผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีราอูล คาสโตรแห่งคิวบา ประกาศยุติความบาดหมางและเดินหน้าฟื้นฟูความสัมพันธ์ระหว่างวอชิงตันและฮาวานา
ก่อนหน้านี้มิเชล ซาแปง รัฐมนตรีคลังฝรั่งเศสประกาศวันเสาร์ (12 ธ.ค.) ถึงการบรรลุข้อตกลงประวัติศาสตร์เพื่อสะสางปัญหาหนี้สินระหว่างรัฐบาลคิวบา กับบรรดาเจ้าหนี้ต่างประเทศที่คั่งค้างมานานกว่า 25 ปี เปิดทางให้คิวบาได้หวนคืนสู่ตลาดการเงิน-การลงทุนโลกอีกครั้ง
คำแถลงของขุนคลังฝรั่งเศสระบุว่า สามารถบรรลุข้อตกลงด้านหนี้สินครั้งประวัติศาสตร์กับทางการคิวบาซึ่งครอบคลุม ถึงหนี้เงินกู้ยืมที่รัฐบาลฮาวานามิได้ชำระคืนให้แก่รัฐบาลเมืองน้ำหอมเลยนับตั้งแต่ช่วงทศวรรษที่ 1980 เป็นต้นมา
ตามข้อตกลงที่เกิดขึ้นล่าสุด รัฐบาลฝรั่งเศสประกาศจะยกเลิก “ดอกเบี้ย” ที่มีจำนวน 4,000 ล้านดอลลาร์ให้แก่คิวบา ขณะที่ “เงินต้น” จำนวน 2,600 ล้านดอลลาร์ที่คิวบายังคงค้างชำระต่อฝรั่งเศสจะได้รับการผ่อนผันให้คิวบา สามารถทยอยชำระคืนได้อีกภายในระยะเวลา 18 ปีนับจากนี้ และอาจยืดหยุ่นได้ตามสถานการณ์ด้านเศรษฐกิจ
นอกเหนือจากฝรั่งเศสแล้ว รายงานข่าวระบุว่า รัฐบาลของคิวบายังมีหนี้สินค้างชำระต่อกลุ่มชาติเจ้าหนี้ ต่างประเทศที่ถูกเรียกในนาม “ปารีส คลับ” คิดเป็นจำนวนรวม 11,100 ล้านดอลลาร์ นับถึงวันที่ 31 ตุลาคมที่ผ่านมา
ทั้งนี้ กลุ่มประเทศ “ปารีส คลับ” ซึ่งก่อตั้งเมื่อ ค.ศ. 1956 ถือเป็นการรวมตัวกันอย่างไม่เป็นทางการของบรรดาประเทศเจ้าหนี้จากประเทศ อุตสาหกรรมชั้นนำของโลกกว่า 20 แห่ง ซึ่งจะมีการนัดประชุมร่วมกันเป็นระยะเพื่อหาทางแก้ปัญหาร่วมกัน โดยเฉพาะปัญหาเกี่ยวกับชาติลูกหนี้ที่ประสบปัญหาในการชำระหนี้สิน
ที่ผ่านมา มีการยืนยันว่ารัฐบาลคิวบายังคงมีหนี้สินค้างชำระต่อหลายประเทศในกลุ่มปารีส คลับ ทั้งฝรั่งเศส อิตาลี ญี่ปุ่น เนเธอร์แลนด์ สเปน สวีเดน สวิตเซอร์แลนด์ สหราชอาณาจักร ฟินแลนด์ เดนมาร์ก แคนาดา เบลเยียม ออสเตรีย และออสเตรเลีย โดยที่รัฐบาลคิวบาชุดปัจจุบันภายใต้การนำของประธานาธิบดีราอูล กาสโตรที่ก้าวขึ้นครองอำนาจต่อจากฟิเดล พี่ชายของเขาเมื่อปี 2006 ประกาศจะเดินหน้าเจรจาแก้ปัญหาหนี้สินกับบรรดาเจ้าหนี้ตั้งแต่ปี 2009 เพื่อหวังพลิกฟื้นเศรษฐกิจของตนที่ยังคงล้าหลัง ตลอดจนเป็นการเตรียมวางรากฐานสำหรับการหวนกลับคืนสู่ตลาดการเงินและการลงทุนโลกอย่างเต็มรูปแบบของคิวบาในอนาคต โดยเฉพาะหลังประสบความสำเร็จในการฟื้นฟูความสัมพันธ์กับสหรัฐอเมริกาและโลกตะวันตกในปีนี้
ก่อนหน้านี้ “มูดีส์” สถาบันจัดอันดับเครดิตเรตติ้งชื่อก้องโลกซึ่งมีฐานอยู่ในสหรัฐอเมริกา ประกาศในวันพฤหัสบดี (10 ธ.ค.) โดยปรับเพิ่มเป้าการคาดการณ์อัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจของคิวบา ชี้ว่าเศรษฐกิจของดินแดนเกาะคอมมิวนิสต์กลางทะเลแคริบเบียนแห่งนี้ ได้ประโยชน์มหาศาลจากการลด-เลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของรัฐบาลวอชิงตัน และการไหลเข้าของเม็ดเงินในช่วง “ขาขึ้น” ของการท่องเที่ยว
มูดีส์ระบุด้วยว่า เศรษฐกิจโดยภาพรวมของคิวบาในปี 2015 มีแนวโน้มจะสามารถเติบโตได้ถึงราว 3.5 เปอร์เซ็นต์ ตัวเลขการเติบโตดังกล่าวนี้ถือว่าสูงกว่าการคาดการณ์ก่อนหน้านี้ซึ่งระบุว่า เศรษฐกิจคิวบาปีนี้ จะเติบโตที่ราว 2.3 เปอร์เซ็นต์ ขณะที่ในปี 2016 ทางมูดีส์ชี้ว่าเศรษฐกิจของคิวบาอาจมีแนวโน้มการเติบโตได้ที่ระดับ 3.0 เปอร์เซ็นต์
สถาบันจัดอันดับเครดิตเรตติ้งชื่อดังระบุว่า ความสำเร็จของรัฐบาลคิวบาในการลดการพึ่งพาน้ำมันราคาถูกจากชาติพันธมิตรเก่าแก่อย่างเวเนซุเอลา และการสร้างความหลากหลายด้านการค้า ตลอดจนการปฏิรูปในภาคการเงิน รวมทั้งการที่สหรัฐอเมริกายกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจ ที่บังคับใช้ต่อคิวบามายาวนานกว่า 6 ทศวรรษ ล้วนเป็นปัจจัยเชิงบวกที่ช่วยผลักดันให้เศรษฐกิจของคิวบามีการเติบโตขึ้นอย่างสำคัญในปีนี้
การยกเลิกมาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจต่อคิวบาของรัฐบาลอเมริกัน และการฟื้นฟูสัมพันธ์ทางการทูตเต็มรูปแบบระหว่างรัฐบาลวอชิงตันและฮาวานาในปีนี้ ถูกระบุว่ามีผลอย่างสำคัญในการกระตุ้นให้เศรษฐกิจของคิวบาเกิดการขยายตัวในแทบทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในภาคการท่องเที่ยวที่คาดว่าจะสร้างรายได้เข้าประเทศคิวบาเพิ่มขึ้นกว่า 16 เปอร์เซ็นต์
แม้ทางมูดีส์จะยังคงจัดอันดับความน่าเชื่อถือทางเศรษฐกิจของคิวบาเอาไว้ต่ำเตี้ยแค่เพียงระดับ “Caa2” แต่ทางมูดีส์ได้ปรับเพิ่มระดับภาพรวมแนวโน้มทางเศรษฐกิจของคิวบาสู่ระดับบวก เป็นครั้งแรกในรอบหลายปี และว่าอันดับเครดิตเรตติ้งของคิวบาอาจถูกขยับขึ้นจากเดิมอีก หากสถานการณ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองในคิวบายังคงมีพัฒนาการในเชิงบวกอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะหลังการประชุมใหญ่ของพรรคคอมมิวนิสต์คิวบาในเดือนเมษายนปี 2016 ที่คาดว่าจะมีการประกาศมาตรการปฏิรูปทางเศรษฐกิจใหม่ๆ เพิ่มเติม ทั้งการเปิดโอกาสให้ภาคเอกชนมีบทบาทมากขึ้น การลดการควบคุมเชิงราคาของรัฐบาล ตลอดจนการปฏิรูปโครงสร้างทางภาษีและค่าเงินเพื่อเอื้ออำนวยต่อการเปิดรับการลงทุนจากต่างชาติ