เอเอฟพี/เอพี - ราคาน้ำมันวันพฤหัสบดี (10 ธ.ค.) ยังคงปรับลงต่อเนื่อง หลังพบกำลังผลิตโอเปกแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีครึ่ง แต่วอลล์สตรีทฟื้นตัวจากแรงช้อนซื้อของนักลงทุน ส่วนทองคำปิดลบอีกครั้ง กังวลเฟดใกล้ขึ้นดอกเบี้ยแล้ว
น้ำมันดิบเวสต์เทกซัสอินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมกราคม ลดลง 40 เซ็นต์ ปิดที่ 36.76 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ส่วนเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเดียวกัน ลดลง 38 เซ็นต์ ปิดที่ 39.73 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ต่ำกว่า 40 ดอลลาร์เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2009
โอเปกรายงานในวันพฤหัสบดี (10 ธ.ค.) ว่ากำลังผลิตของกลุ่มเพิ่มขึ้น 230,100 บาร์เรลต่อวันในเดือนพฤศจิกายน เป็น 31.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน ขณะที่ทางกลุ่มพยายามรักษาส่วนแบ่งตลาดท่ามกลางภาวะราคาตกต่ำ
ในรายงานประจำเดือนของโอเปก คาดหมายว่านโยบายดังกล่าวของพวกเขา ที่มีเป้าประสงค์ผลักดันเหล่าผู้ผลิตที่มีต้นทุนสูงกว่าออกจากตลาดจะสัมฤทธิผลในปีหน้า
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ วานนี้ (10 ธ.ค.) ปิดบวกเป็นครั้งแรกในรอบ 4 วัน นักลงทุนฉวยโอกาสช้อนซื้อเพื่อเก็งกำไร หลังหุ้นกลุ่มพลังงานขยับลงต่อเนื่องในระยะหลัง
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 82.45 จุด (0.47 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 17.574.75 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 4.61 จุด (0.23 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 2,052.23 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 22.31 จุด (0.44 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 5,045.17 จุด
แม้ราคาน้ำมันขยับลงต่ำสุดในรอบหลายปี แต่สมาชิกดาวโจนส์อย่างเชฟรอน ปิดบวก 1.9 เปอร์เซ็นต์ และโคโนโคฟิลลิปส์ ปิดบวก 1.6 เปอร์เซ็นต์ หลังจากทั้งสองบริษัทหั่นงบลงทุนในปี 2016 ลง 25 เปอร์เซ็นต์
ส่วนราคาทองคำในวันพฤหัสบดี (10 ธ.ค.) ปิดลบพอสมควร นักลงทุนเริ่มกังวลต่อการปรับขึ้นดอกเบี้ย ก่อนหน้าการประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในสัปดาห์หน้า โดยทองคำตลาดโคเม็กซ์ ลดลง 4.50 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,072.00 ดอลลาร์ต่อออนซ์