วิกฤต จีนสั่งชัตดาวน์ทั้งปักกิ่ง! หลังอากาศ “เหม็นเหมือนถ่านหินกำลังไหม้”

เอเจนซีส์ – หลังจากสภาพมลพิษทางอากาศในกรุงปักกิ่งเข้าขั้นวิกฤตถึงขั้นมีกลิ่นเหม็นคลุ้งคล้ายถ่านหินกำลังไหม้ตลอดเวลา ทำให้จีนตัดสินใจประกาศเตือนภัยฉุกเฉินระดับสูงสุด ด้วยการปิดเมืองปักกิ่งบางส่วนในวันนี้(8) ห้ามไม่ให้รถส่วนตัวครึ่งหนึ่งของจำนวนทั้งหมด 4.4 ล้านคันแล่นบนท้องถนน โรงเรียนในบางเขตถูกปิด ห้ามเขตก่อสร้างทำงาน ประชาชนสวมหน้ากากกันมลพิษ

อัลญะซีเราะฮ์ สื่อกาตาร์รายงานวันนี้(8)ว่า รัฐบาลปักกิ่งเริ่มปฎิกริยาต่อเสียงเรียกร้องและการกดดันจากประชาชนชาวจีนจากปัญหามลพิษทางอากาศที่รุมเร้าปักกิ่งมาอย่างยาวนานในวันอังคาร(8)ด้วยการประกาศเตือนภัยฉุกเฉินขั้นสีแดงในระดับ 4 ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในเมืองหลวงของจีนที่มีประชาชนอาศัยอยู่อย่างหนาแน่นถึง 21.5 ล้านคน

สื่อกาตาร์รายงานว่า จากการวัดสภาพมลพิษในวันนี้(8) พบว่า ค่าดัชนีมลพิษในปักกิ่งสูง 300 ไมโครกรัมต่อลูกบาสก์เมตร อ้างอิงจากแถลงการณ์สถานทูตสหรัฐฯในปักกิ่ง ซึ่งสูงกว่าค่ามาตรฐานที่องค์การอนามัยโลก WHO ที่ได้จำกัดไว้ที่ 25 ไมโครกรัมต่อลูกบาสก์เมตร

อัลญะซีเราะฮ์รายงานเพิ่มเติมว่า การประกาศเตือนภัยฉุกเฉินขั้น 4 นี้ดูเหมือนบังเอิญตรงกับคำประกาศของประธานาธิบดีจีน สี จิ้นผิง ในการประชุมว่าด้วยสภาวะอากาศการเปลี่ยนแปลงของโลกในกรุงปารีสที่ให้คำมั่นว่า จะ “เทคแอกชั่น” ต่อการปล่อยก๊าซเรือนกระจก

อย่างไรก็ตาม เอเดรียน บราวน์ (Adrian Brown)นักข่าวอัลญะซีเราะฮ์รายงานจากกรุงปักกิ่งว่า แต่เป็นที่น่าสังเกตว่า ระดับมลพิษในกรุงปักกิ่งในวันอังคาร(8)นั้นต่ำกว่ามากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในวันที่ 30 พฤศจิกายน ที่ผ่านมา ซึ่งมีค่าดัชนีทางมลพิษสูงที่สุดแตะ 634 ไมโครกรัมต่อลูกบาสก์เมตรในบางพื้นที่

บราวน์รายงานเพิ่มเติมว่า แต่อย่างไรก็ตามหลังจากความกดดันอย่างหนักจากภาคเอกชนในสัปดาห์ที่ผ่านมา ทำให้รัฐบาลปักกิ่งทำสิ่งที่คาดไม่ถึงด้วยการเดินหน้าประกาศเตือนภัยระดับสูงสุดเพื่อแสดงให้ประชาชนจีนเห็นว่า ทางการปักกิ่งสนใจในเสียงเรียกร้องเหล่านี้

แต่กระนั้น บราวน์ นักข่าวอัลญะซีเราะฮ์ให้ความเห็นว่า ระดับค่ามลพิษยังคงอยู่ในระดับอันตรายต่อชีวิต “คุณสามารถเห็น “มลพิษ” คุณสามารถรู้สึกและสัมผัส “มลพิษ” ได้” บราวน์รายงาน

ทั้งนี้ในเวลา 9.00 น. ตามเวลาท้องถิ่นในวันนี้(8) ระดับดัชนีค่ามลพิษอย่างเป็นทางการยังคงอยู่ที่ 261 ไมโครกรัมต่อลูกบาสก์เมตร ซึ่งสูงกว่าระดับดัชนีค่ามลพิษที่ผู้สังเกตการณ์สภาพอากาศในสถานทูตสหรัฐฯวัดได้ที่ 250 ไมโครกรัมต่อลูกบาสก์เมตร

นอกจากนี้ นักข่าวอัลญะซีเราะฮ์อีกคนในกรุงปักกิ่ง โบ กู (Bo Gu) ได้รายงานว่า มีประชาชนชาวจีนจำนวนมากขึ้นได้เริ่มสวมหน้ากากป้องกันมลพิษตามท้องถนนในกรุงปักกิ่ง “พวกเราทั้งหมดต่างสวมหน้ากากกันมลพิษ เพราะอากาศรอบตัวเหม็นเหมือนถ่านหินกำลังเผาไหม้” และโบ กูยังกล่าวต่อไปว่า “เพื่อนที่รู้จักที่ไม่สามารถทนได้ต่อมลพิษหนาแน่นเช่นนี้ ต่างมีอาการแสบจมูและคอไปทั่ว”

อัลญะซีเราะฮ์รายงานเพิ่มเติมว่า ภายใต้การเตือนภัยระดับ 4 ครึ่งหนึ่งของรถส่วนตัวที่จดทะเบียนในปักกิ่งทั้งหมด 4.4 ล้านคันต้องออกจากท้องถนนในวันนี้ ตามระบบเลขทะเบียนคู่-คี่ที่ผลัดให้มีการวิ่งเข้าเมืองได้ในแต่ละวัน รวมไปถึงสั่งห้ามเขตก่อสร้างไม่ให้ทำงานในวันนี้ และโรงเรียนจำนวนหนึ่งในกรุงปักกิ่งถูกสั่งให้ปิด รวมไปถึงประชาชนปักกิ่งยังให้ลูกหลานอยู่แต่ภายในตัวบ้าน

สื่อกาตาร์รายงานว่า จีนถือได้ว่าเป็นประเทศสูงสุดในการปล่อยก๊าซเรือนกระจก ซึ่งปล่อยออกมามากถึง 6,018 ล้านตันต่อปี และพบว่าแหล่งการเกิดก๊าซเรือนกระจกของจีนมีสาเหตุมาจาก การเผาไหม้ของถ่านหินสำหรับผลิตกระแสไฟฟ้าและความร้อน ซึ่งมีความต้องการเพิ่มสูงมากสำหรับประชาชนในช่วงฤดูหนาว และเป็นตัวการทำให้เกิดควันพิษหนาทึบ

ทั้งนี้การสั่งปิดเมืองบางส่วนเนื่องจากปัญหามลพิษไม่ใช่ครั้งแรกในจีน อัลญะซีเราะฮ์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ในวันที่ 30 พฤศจิกายน 2015 ที่จีนประสบปัญหาจากสภาพมลพิษสูงสุดทำลายสถิติ ปักกิ่งได้ทำการสั่งปิดเมืองมาแล้ว โดยในครั้งนั้นมีมณฑลเหอเป่ยเป็นศูนย์กลางปัญหามลพิษที่มีดัชนีค่ามลพิษสูงกว่าที่ WHO กำหนดไว้ถึง 22 เท่า