เอเอฟพี/เอเจนซีส์ - นายกรัฐมนตรีไฮเดอร์ อัล-อาบาดี ของอิรัก กล่าวในวันนี้ (7 ธ.ค.) ว่า น้ำมันที่กลุ่ม “รัฐอิสลาม” (ไอเอส) ลักลอบโจรกรรมไปนั้น ส่วนใหญ่ได้ถูกลำเลียงขนส่งผ่านประเทศตุรกี คำพูดเช่นนี้ของเขาเป็นการสอดคล้องประสานเสียงกับหลายๆ ประเทศ ซึ่งกำลังเชื่อมโยงกรุงอังการากับหนทางหาเงินรายได้อันสำคัญของกลุ่มนักรบญิฮัดสุดโต่งกลุ่มนี้
ระหว่างพบปะหารือกับรัฐมนตรีต่างประเทศเยอรมนีที่เดินทางมาเยือน อาบากีกล่าวเน้นถึง “ความสำคัญของการหยุดยั้งไม่ให้แก๊งผู้ก่อการร้าย (ไอเอส) ลักลอบค้าน้ำมันได้ โดยที่น้ำมันเหล่านี้ส่วนมากแล้วลักลอบขนส่งผ่านออกไปทางตุรกี” คำแถลงจากสำนักนายกรัฐมนตรีของเขา ระบุเอาไว้เช่นนี้
ความสัมพันธ์ระหว่างอังการากับแบกแดดกระเตื้องดีขึ้น นับตั้งแต่ที่อาบาดีขึ้นนั่งเก้าอี้นายกรัฐมนตรีอิรักในปี 2014 กระนั้นประเทศเพื่อนบ้านทั้งสองก็ยังมีการพิพาทกันอยู่ในหลายๆ ประเด็น เป็นต้นว่า สงครามกลางเมืองในซีเรีย นอกจากนั้นในช่วงนี้ยังมีกรณีที่ตุรกีส่งทหารเข้าไปประจำการในภาคเหนือของอิรัก
สำหรับข้อกล่าวหาของอาบาดี เป็นการตอกย้ำสิ่งที่รัสเซียกับอิหร่านได้เคยพูดมาก่อนแล้ว โดยเฉพาะรัสเซียนั้น หลังเกิดกรณีเครื่องบินขบไล่ตุรกียิงเครื่องบินรบรัสเซียตกที่บริเวณชายแดนซีเรีย-ตุรกีแล้ว ก็ออกมาพูดถึงเรื่องนี้หลายระลอก โดยมีการโชว์หลักฐานที่เป็นภาพและคลิปวิดีโอจากการสอดแนมสังเกตการณ์ทางอวกาศและอากาศ รวมทั้งระบุถึงประธานาธิบดีเรเซป ตอยยิป เออร์โดกัน ของตุรกีและครอบครัว ว่ามีการเกี่ยวข้องพัวพันกับเรื่องนี้ ขณะที่ฝ่ายตุรกีก็แก้เกี้ยวด้วยการกล่าวหากลับว่า จริงๆ แล้วมอสโกต่างหากที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการค้าน้ำมันเถื่อนนี้
ถัดจากนั้นสื่อมวลชนของอิหร่านได้ประโคมข้อกล่าวหาของฝ่ายรัสเซีย เป็นเหตุให้เออร์โดกันตอกกลับทางอิหร่านบ้าง
แต่ โมห์เซน เรไซอี เลขาธิการสภาที่ปรึกษาผู้นำสูงสุดของอิหร่าน ออกมาแถลงว่า พวกที่ปรึกษาทางทหารชาวอิหร่านซึ่งประจำอยู่ในภาคสนามทั้งในอิรักและซีเรีย ต่างมีภาพซึ่งแสดงให้เห็นรถบรรทุกน้ำมันของพวกไอเอสกำลังเดินทางเข้าสู่ตุรกี
สหรัฐฯ ออกโรงแก้ต่างให้ตุรกี ถูกรัสเซียตอกหน้า
เวลาเดียวกันนั้น สหรัฐฯได้ออกมาแถลงแก้ต่างให้อังการาว่า น้ำมันที่ไอเอสลักลอบค้าผ่านทางตุรกีนั้น ไม่ได้มีปริมาณมากมายอะไร ทำให้มอสโกตอบโต้กล่าวหาวอชิงตันว่าพยายามที่จะปกปิดความจริง
“เมื่อพวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ พูดว่า พวกเขามองไม่เห็นว่าน้ำมันของพวกผู้ก่อการร้ายกำลังถูกลักลอบขนส่งเข้าสู่ตุรกีกันอย่างไร … มันกำลังส่งกลิ่นเหม็นโฉ่ถึงความปรารถนาที่จะปกปิดพฤติการณ์เหล่านี้” กระทรวงกลาโหมรัสเซีย แถลงเอาไว้เช่นนี้บนหน้าเฟซบุ๊กของกระทรวงเมื่อวันเสาร์ (5)
“การประกาศของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ และกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ช่างละม้ายเหมือนกับละครแนวแอบเสิร์ด (ละครสมัยใหม่ที่เน้นถึงความเหลวไหลไร้สาระของชีวิตมนุษย์)” คำแถลงของฝ่ายรัสเซียกล่าว พร้อมกับแนะนำให้วอชิงตันชมวิดีโอที่อากาศยานไร้นักบิน (โดรน) ของสหรัฐฯเองถ่ายเอาไว้ และระบุว่า ในช่วงหลังๆ มานี้ โดรนอเมริกันในบริเวณชายแดนตุรกี-ซีเรีย และที่บินอยู่เหนือพื้นที่น้ำมันนั้น ได้เพิ่มจำนวนมากขึ้นกว่าเดิมเป็น 3 เท่าตัวแล้ว
ก่อนหน้านี้ อามอส ฮอชสไตน์ ผู้แทนพิเศษและผู้ประสานงานด้านกิจการพลังงานระหว่างประเทศ ของกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ ได้ออกมาแถลงข่าวในวันศุกร์ (4) ว่า น้ำมันที่ลักลอบขนส่งจากพื้นที่ซีเรียซึ่งไอเอสยึดครองอยู่เข้าไปในตุรกีนั้น “ไม่ได้มีความสำคัญอะไรเลยเมื่อพิจารณาจากมุมมองในด้านปริมาณ ไม่ว่าจะเป็นปริมาณของตัวน้ำมันหรือปริมาณของรายได้ที่เกิดขึ้น”
ขณะที่พวกเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ หลายรายบอกกับผู้ส่อข่าวว่า น้ำมันที่สูบขึ้นมาจากภาคตะวันออกของซีเรียนั้น ถูกกลั่นในบ่อชั่วคราวที่เป็นการขุดทะเลทราย แล้วปล่อยน้ำมันดิบลงไป จากนั้นก็ขายกันตามตลาดมืดในพื้นที่สงคราม ทั้งในเขตซีเรียและเขตอิรัก
สำนักข่าวเอเอฟพีบอกว่า พวกเจ้าหน้าที่ของกลุ่มพันธมิตรที่นำโดยสหรัฐฯ ประมาณการเอาไว้ว่าไอเอสมีรายรับจากน้ำมันประมาณ 1.0 ถึง 1.5 ล้านดอลลาร์ต่อวัน แต่ก็หวังว่าการที่สหรัฐฯ, อังกฤษ และฝรั่งเศส เพิ่มการโจมตีทางอากาศกันใหม่ จะสามารถตัดลดรายรับนี้ลงไปได้