เอเอฟพี / เอเจนซีส์ / MGR online – หน่วยยามฝั่งของอิตาลีเผยในวันอาทิตย์ (6 ธ.ค.) สามารถให้ความช่วยเหลือผู้อพยพทางเรือได้มากกว่า 4,600 ราย จากน่านน้ำทะเลเมดิเตอร์เรเนียนบริเวณนอกชายฝั่งของลิเบีย หลังจากบรรดาผู้อพยพจากทวีปแอฟริกาฉวยโอกาสแล่นเรือในช่วงคลื่นลมสงบหวังเล็ดรอดเข้าสู่แผ่นดินยุโรปเพื่อแสวงหาชีวิตใหม่ที่ดีกว่า
รายงานข่าวซึ่งอ้างข้อมูลจากศูนย์ปฏิบัติการในกรุงโรมของหน่วยยามฝั่งอิตาลี ที่ทำหน้าที่เป็นผู้ประสานงานหลักในภารกิจช่วยเหลือผู้อพยพทางเรือในครั้งนี้ ระบุว่า ลำพังในวันเสาร์ (5 ธ.ค.) ที่ผ่านมาเพียงแค่วันเดียว เจ้าหน้าที่ยามฝั่งแดนมะกะโรนี สามารถช่วยเหลือผู้อพยพทางเรือจากทวีปแอฟริกาได้มากถึง 1,123 ราย โดยที่ผู้อพยพจากกาฬทวีปกลุ่มนี้ ถูกระบุว่า โดยสารมากับเรือ 2 ลำ ซึ่งมีสภาพไม่แข็งแรงนัก รวมถึงเรือขนาดเล็กที่ประดิษฐ์ขึ้นจากวัสดุที่ลอยน้ำได้อีก 7 ลำ
แต่หากนับตั้งแต่วันพฤหัสบดี (3 ธ.ค.) ที่ผ่านมา จำนวนผู้อพยพที่ได้รับการช่วยเหลือขึ้นจากทะเลเมดิเตอร์เรเนียนโดยหน่วยยามฝั่งของอิตาลี รวมถึงเรือที่รัฐบาลเยอรมนี ส่งมาช่วยสนับสนุนภารกิจลาดตระเวนของสหภาพยุโรป (อียู) ในน่านน้ำแห่งนี้ จะมีจำนวนมากเกินกว่า 4,600 ราย
ก่อนหน้านี้ องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) เปิดเผยข้อมูลว่า จำนวนผู้อพยพทางเรือจากทวีปแอฟริกา และตะวันออกกลางที่พยายามเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรนียนเข้าสู่ทวีปยุโรป ได้ลดจำนวนลงมากกว่า 1 ใน 3 ในช่วงเดือนพฤศจิกายน ที่ผ่านมา จากผลพวงของสภาพอากาศที่เลวร้ายและคลื่นลมที่รุนแรงในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ตลอดจนการกวาดล้างอย่างหนักของทางการตุรกี ที่เดินหน้าปราบปรามขบวนการลักลอบนำผู้อพยพเข้าสู่กรีซผ่านดินแดนของตน
ทั้งนี้ เมื่อช่วงปลายเดือนพฤศจิกายน องค์การระหว่างประเทศเพื่อผู้อพยพ (International Organization for Migration) คาดการณ์ว่า จำนวนของผู้อพยพจากทวีปแอฟริกา และภูมิภาคตะวันออกกลางที่เดินทางเข้าสู่ทวีปยุโรปแล้วในปีนี้มีจำนวนเกือบ 860,000 ราย ขณะเดียวกัน ผู้อพยพจำนวนมากกว่า 3,500 ราย มีอันต้องเสียชีวิตระหว่างการเดินทางข้ามทะเลเมดิเตอร์เรเนียน
