เอเอฟพี - รัสเซียประกาศระงับโครงการยกเว้นวีซ่าแก่นักท่องเที่ยวตุรกี โดยให้มีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ปีหน้า เพื่อตอบโต้กรณีเครื่องบินขับไล่ของแดนหมีขาวถูกทัพฟ้าอังการายิงตก ขณะที่ผู้นำตุรกีฝากเตือนไปถึงมอสโกว่า “อย่าเล่นกับไฟ”
แม้จะยืนยันว่าไม่คิด “ทำสงคราม” หรือใช้ปฏิบัติการทางทหารแก้เผ็ดตุรกีซึ่งเป็นสมาชิกนาโต แต่รัสเซียก็ประกาศกร้าวว่าจะใช้มาตรการลงโทษทางเศรษฐกิจอย่างครอบคลุม ไม่ว่าจะเป็นการท่องเที่ยว เกษตรกรรม หรือการลงทุน
“เราตัดสินใจระงับโครงการยกเว้นวีซ่าแก่พลเมืองตุรกี” เซียร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซีย บอกกับสื่อมวลชนที่กรุงมอสโก หลังเสร็จสิ้นการหารือกับ วาลิด มูอัลเลม รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศซีเรีย
“คำสั่งนี้จะเริ่มมีผลบังคับตั้งแต่วันที่ 1 ม.ค. ปี 2016 เป็นต้นไป”
ประธานาธิบดี วลาดิเมียร์ ปูติน ได้ออกมาเตือนชาวรัสเซียให้งดเดินทางไปตุรกี ซึ่งเป็นหนึ่งในจุดหมายปลายทางยอดนิยมของนักท่องเที่ยวจากแดนหมีขาว เนื่องจากมีชายหาดที่สวยงามและสามารถเที่ยวได้ด้วยงบประมาณจำกัด ขณะที่กระทรวงการต่างประเทศก็ประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี(26) ให้ชาวรัสเซียในตุรกีเดินทางกลับบ้านเกิดทันที เนื่องจากมี “ภัยคุกคามจากกลุ่มก่อการร้าย”
ลาฟรอฟ ชี้ว่า คำสั่งเลิกยกเว้นวีซาไม่ใช่มาตรการแก้แค้นแต่อย่างใด โดยระบุว่า ภัยคุกคามจากตุรกี “มีความเป็นไปได้สูง” และ “พวกนักรบ” ก็มักจะใช้ตุรกีเป็นเส้นทางผ่าน
“ภัยคุกคามก่อการร้ายในสาธารณรัฐตุรกีสร้างความกังวลต่อเรา... เรื่องนี้เกี่ยวพันกับความปลอดภัยของรัสเซียและพลเมืองของเรา”
รัฐมนตรีต่างประเทศหมีขาวกล่าวด้วยว่า ปีนี้ตุรกีสั่งเนรเทศพลเมืองรัสเซียมากกว่า 200 คน และมักส่งพวกเขาไปยังประเทศที่ 3 “ซึ่งมีนโยบายก้าวร้าวต่อรัสเซีย”
โอเล็ก ซาโฟนอฟ ผู้อำนวยการสำนักงานการท่องเที่ยวรัสเซีย (Rostourism) เผยเมื่อวันพฤหัสบดี(26)ว่า นักท่องเที่ยวจากแดนหมีขาวนำเงินไปใช้จ่ายในตุรกีมากถึงปีละ 10,000 ล้านรูเบิล (ราว 5,400 ล้านบาท)
“เงินทองพวกนี้จะไม่ไหลออกไปตุรกีอีก แต่จะยังอยู่ในรัสเซีย และถูกนำมาใช้ส่งเสริมการท่องเที่ยวภายในประเทศ” เขากล่าว
ข้อมูลล่าสุดเมื่อวันที่ 26 พ.ย. พบว่ายังมีชาวรัสเซียท่องเที่ยวอยู่ในตุรกีมากกว่า 9,900 คน “แต่ภายในวันที่ 26 ธ.ค. จะไม่มีนักท่องเที่ยวรัสเซียเหลืออยู่แม้แต่คนเดียว” Rostourism แถลง
รัสเซียยังประกาศจะตรวจสอบผลิตภัณฑ์อาหารที่นำเข้าจากตุรกีให้เข้มงวดยิ่งขึ้น หลังมีเสียงร้องเรียนเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยอาหาร ขณะที่นายกรัฐมนตรี ดมิตรี เมดเวเดฟ ก็ได้ให้เวลาคณะรัฐมนตรี 2 วันเพื่อไปคิดแผนลดทอนความร่วมมือกับภาคธุรกิจของตุรกี
ด้านประธานาธิบดี รีเซป ตอยยิบ เออร์โดกัน แห่งตุรกี ก็ได้ประณามมาตรการตอบโต้ที่รัสเซียใช้แก้แค้นเหตุเครื่องบิน Su-24 ถูกยิงตกเมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (25) รวมถึงเรื่องที่ ปูติน คอยหนุนหลังประธานาธิบดี บาชาร์ อัล-อัสซาด แห่งซีเรีย
“เราขอเตือนรัสเซียว่าอย่าเล่นกับไฟ” เออร์โดกัน กล่าว
อย่างไรก็ตาม ผู้นำตุรกียืนยันว่า ตนปรารถนาจะได้พบและหารือกับ ปูติน โดยตรงสักครั้ง ระหว่างเดินทางไปร่วมการประชุมสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ ซึ่งจะจัดขึ้นที่กรุงปารีสในสัปดาห์หน้า ขณะที่มอสโกยังคงมีท่าทีเย็นชา โดยตอกกลับมาว่าตุรกีควรจะ “ขอโทษ” ที่ยิงเครื่องบินขับไล่ของรัสเซียตกในเขตแดนซีเรียเสียก่อน