เอ็กซ์เพรส/อาร์ทีนิวส์ - กองทัพรัสเซียระดมยิงขีปนาวุธร่อนถล่มฐานที่มั่นต่างๆของพวกรัฐอิสลาม(ไอเอส) ในซีเรีย จากกองเรือที่ประจำการอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียนและทะเลแคสเปียน โดยลูกหนึ่งสามารถปลิดชีพพวก่อการร้ายได้ถึง 600 ศพ ขณะเดียวกันมอสโกก็แถลงเพิ่มจำนวนเครื่องบินที่ใช้ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศขยี้พวกก่อการร้ายในซีเรียเป็น 2 เท่า
กระทรวงกลาโหมของรัสเซียเปิดเผยในวันศุกร์(20พ.ย.) ว่ากองทัพอากาศเพิ่มจำนวนเครื่องบินที่เกี่ยวข้องกับปฏิบัติการถล่มนักรบญิฮัดเป็น 69 ลำ แม้แค่ช่วง 3 วันที่ผ่านมา เครื่องบินรบของมอสโกได้ลงมือโจมตีทางอากาศถึง 394 เที่ยว ถล่มเป้าหมายต่างๆของพวกก่อการร้ายทั่วซีเรีย 731 เป้าหมาย
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวมีขึ้นท่ามกลางความสับสนว่ารัสเซียจะส่งกองกำลังทางภาคพื้นสู่สมรภูมิซีเรียหรือไม่ ด้วยในวันศุกร์(20พ.ย.) เครมลินบอกแต่เพียงว่ายังไม่ถึงเวลาที่พวกเขาจะทำสงครามภาคพื้นอย่างเต็มรูปแบบ แต่ก็ไม่ปฏิเสธที่จะดำเนินการเช่นนั้นในอนาคต ท่ามกลางข่าวลือว่าประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เตรียมส่งทหาร 150,000 นายเข้าไปขุดรากถอนโคนไอเอสเป็นครั้งสุดท้าย
เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีกลาโหมเปิดเผยว่ามีพวกก่อการร้ายมากกว่า 600 คนถูกกำจัด ผลจากขีปนาวุธร่อนเพียงลูกเดียวที่ถล่มเป้าหมายหนึ่งในจังหวัดเดอีร์ เอซ-ซอร์ ในวันศุกร์(20พ.ย.)
รัฐมนตรีกลาโหมรายนี้รายงานกับประธานาธิบดีปูติน ต่อว่า"ในวันที่ 20 พฤศจิกายน เรือรบของกองเรือแคสเปียนยังยิงขีปนาวุธร่อนอีก 17 ลูกโจมตี 7 เป้าหมายในจังหวัดรักกา, อิดลิบ และอเลปโป และประสบความสำเร็จโดนทุกเป้าหมาย" ทั้งนี้โดยรวมแล้วมีเรือรบรัสเซีย 10 ลำที่ร่วมปฏิบัติการถล่มซีเรีย โดยในนั้น 6 ลำ ประจำการอยู่ในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน ส่วนที่เหลืออยู่ในทะเลแคสเปียน
การยกระดับโจมตีดังกล่าวมีขึ้นหลังจากช่วงต้นสัปดาห์ ประธานาธิบดีปูติน ประกาศจะไล่ล่าและลงโทษพวกที่อยู่เบื้องหลังเหตุลอบวางระเบิดบนเครื่องบินโดยสารรัสเซียเหนือคาบสมุทรไซนายเมื่อเดือนก่อน ที่คร่าชีวิตยกลำ 224 ศพ ซึ่งพวกไอเอสออกมาอ้างความรับผิดชอบ
นอกจากปฏิบัติการโจมตีทั้งทางเครื่องบินและทางเรือแล้ว มอสโกยังมีแผนซ้อมรบ 3 วันในทะเลเมดิเตอร์เรเนียน และได้แจ้งเตือนเลบานอนว่าน่านฟ้าของพวกเขาจะได้รับผลประทบจากการซ้อมรบดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ปูติน ยอมรับว่าความพยายามเหล่านี้ยังล้มเหลวในการปกป้องรัสเซียจากการโจมตีก่อการร้าย
ก่อนหน้านี้นายเซอร์เก ลาฟรอฟ รัฐมนตรีต่างประเทศรัสเซียและนายจอห์น เคร์รี รัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ได้พูดคยกันทางโทรศัพท์เพื่อหารือเกี่ยวกับความจำเป็นที่ต้องพยายามต่อสู้กับไอเอสในซีเรียร่วมกัน ขณะที่นายฟิลิป แฮมมอนด์ รัฐมนตรีต่างประเทศอังกฤษ บอกว่าพบเห็นสัญญาณอย่างชัดเจนว่ารัสเซียหันกระบอกปืนเข้าหาพวกไอเอสในช่วงหลายวันที่ผ่านมา
นายแฮมมอนด์ กล่าวระหว่างเดินทางเยือนไซปรัสเมื่อช่วงกลางสัปดาห์ว่า "ในช่วง 48 ชั่วโมงที่ผ่านมา เราพบเห็นอย่างชัดเจนว่ารัสเซียกำลังพุ่งเป้าไปที่ความพยายามตอบโต้ไอเอสมากขึ้น ซึ่งเป็นเรื่องดี" เขากล่าว