รอยเตอร์ - ในปีนี้คนไร้บ้านในสหรัฐฯมีจำนวนมากกว่า 500,000 คน โดยเป็นเด็กถึง 1 ใน 3 ท่ามกลางปัญหาการขาดแคลนที่พักอาศัยราคาถูกทั่วประเทศ ทั้งนี้อ้างจากการศึกษาที่เผยแพร่เมื่อวานนี้ (19)
รายงานดังกล่าวจากกระทรวงการเคหะและการพัฒนาเมืองสหรัฐฯ (เอชยูดี) ระบุว่า ตัวเลขนี้ลดลงเล็กน้อยจากปี 2014 เมืองจำนวนมากในสหรัฐฯกำลังเผชิญหน้ากับการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจอันเอื่อยเฉื่อย ปัญหาค่าแรงคงที่หรือลดลงในหมู่ผู้มีรายได้ต่ำที่สุดและข้อกำกัดด้านงบประมาณสำหรับโครงการสวัสดิการสังคมต่างๆ
เมื่อไม่นานมานี้ลอสแอนเจลิส ซีแอตเทิล พอร์ทแลนด์ โอเรกอน และฮาวาย ได้ประกาศภาวะฉุกเฉินเกี่ยวกับการเพิ่มขึ้นของคนไร้บ้าน และเมื่อวานนี้ (19) นายกเทศมนตรีซีแอตเทิลได้ลงพื้นที่เยือนค่ายพักสำหรับคนไร้บ้านของเมืองของเขา
ตามบันทึกล่าสุดของเอชยูดี มีคนเกือบ 565,000 คนกำลังใช้ชีวิตบนถนน ในรถยนต์ ในศูนย์พักพิงคนไร้บ้าน หรือในบ้านเฉพาะกิจจากการบริจาคระหว่างการสำรวจทั่วประเทศในคืนเดียวเมื่อเดือนมกราคม โดยเกือบ 1 ใน 4 มีอายุ 18 ปีหรือต่ำกว่านั้น
ตัวเลขดังกล่าวลดลงจากปีก่อนหน้า 2 เปอร์เซ็นต์และลดลงจากปี 2007 11 เปอร์เซ็นต์ ยูเอชดี ระบุ
จำนวนคนไร้บ้านในสหรัฐฯที่แท้จริงน่าจะสูงกว่าตัวเลขคร่าวๆ ของยูเอชดี เพราะว่าคนจำนวนมากที่ใช้ชีวิตเป็นคนเร่ร่อนอยู่เหนือขอบเขตของการสำรวจดังกล่าว พวกเขาเหล่านี้มักอาศัยหลับนอนบนโซฟาบ้านเพื่อนหรือห้องใต้ดินบ้านญาติ
เอชยูดีได้ออกรายงานอีกชิ้นหนึ่งในเดือนนี้ระบุว่า ในปี 2014 มีคนใช้ศูนย์พักพิงราว ราว 1.49 ล้านคน เพิ่มขึ้นจากปี 2013 4.6 เปอร์เซ็นต์ ฮีเทอร์ ฟลุต โฆษกกระทรวงฯ กล่าว
ถึงแม้ว่าจำนวนคนไร้บ้านจะลดน้อยลงทั่วประเทศ แต่มี 17 รัฐที่มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น รวมถึง 2 รัฐที่มีประชากรหนาแน่นที่สุดอย่างนิวยอร์คและแคลิฟอร์เนีย โดยเพิ่มขึ้นเกือบ 10 เปอร์เซ็นต์และ 1.6 เปอร์เซ็นต์ตามลำดับจากปีที่แล้ว
คนไร้บ้านมีจำนวนลดลงในรัฐ 33 แห่งและกรุงวอชิงตันดี.ซี. โดยรัฐที่พบว่ามีการลดลงมากที่สุดคือ ฟลอริดา เทกซัส จอร์เจีย มิชิแกน และนิวเจอร์ซีย์
การขาดแคลนที่พักอาศัยราคาถูกและการจ่ายค่าจ้างต่ำกว่าอัตราค่าแรงขั้นต่ำฯถูกนักวิเคราะห์หลายคนวิพากษ์วิจารณ์เป็นตัวผลักดันจำนวนคนไร้บ้านในหลายเมืองของสหรัฐฯ