เอเอฟพี - กระทรวงสาธารณสุขอินโดนีเซียออกมาชี้แจงและขออภัยต่อสังคมวันนี้ (18 พ.ย.) หลังมีกระแสร้องเรียนเรื่องโปสเตอร์เตือนความเสี่ยงโรคเอดส์ที่ให้ข้อมูลผิดพลาดอย่างร้ายแรง โดยระบุว่า เชื้อเอชไอวีนั้น “สามารถ” ติดต่อผ่านการถูกยุงกัด ว่ายน้ำร่วมสระ และจามใส่กัน
กระทรวงสาธารณสุขอิเหนาได้ริเริ่มโครงการจัดทำโปสเตอร์เพื่อให้ข้อมูลเรื่องโรคเอดส์ โดยหวังลบล้างความเชื่อผิดๆ ที่ทำให้ประชาชนส่วนใหญ่ยังคงหวาดกลัวและตั้งแง่รังเกียจผู้ป่วย
โครงการนี้มีการจัดสรรงบประมาณจัดพิมพ์โปสเตอร์เพื่อนำไปติดบนรถไฟโดยสารภายในกรุงจาการ์ตา โดยให้มีข้อความระบุชัดเจนว่า เชื้อเอชไอวี “ไม่สามารถติดต่อ” ผ่านการถูกยุงกัด, การว่ายน้ำร่วมสระ และการจามใส่กัน แม้แต่การสัมผัสน้ำลายหรือเหงื่อของผู้ป่วยก็ไม่ทำให้ติดโรค
อย่างไรก็ตาม บริษัทผู้จัดพิมพ์โปสเตอร์กลับลืมใส่คำว่า “ไม่” ลงไป และได้นำโปสเตอร์ไปติดตั้งโดยไม่ส่งให้ทางการตรวจสอบขั้นสุดท้าย ทำให้โปสเตอร์ชุดนี้มีผล “ยืนยัน” ความเชื่อผิดๆ เกี่ยวกับโรคเอดส์ แทนที่จะนำเสนอสิ่งที่ถูกต้อง
โปสเตอร์ชุดนี้ถูกนำไปติดบนรถไฟเมื่อช่วงสุดสัปดาห์ แต่ทางการอิเหนาได้ดำเนินการถอดออกแล้ว หลังมีผู้นำภาพไปแชร์ว่อนเน็ตจนเกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างรุนแรง
“กระทรวงสาธารณสุขจะต้องหาทางกระตุ้นให้สังคมได้ตระหนักรู้ (ข้อมูลที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคเอดส์) อย่างเป็นระบบ เพื่อลบล้างความผิดพลาดครั้งนี้” อาทิตยา วาร์ดานา นักเคลื่อนไหวจากองค์กรพันธมิตรเอดส์แห่งอินโดนีเซีย (Indonesia AIDS Coalition) ระบุ
ฟาจาร์ จัสมิน นักเคลื่อนไหวเพื่อผู้ป่วยเอชไอวี ได้ทวีตข้อความโจมตีแคมเปญของรัฐบาลว่า “โง่เขลาและผิดพลาดอย่างร้ายแรง”
มูฮัมหมัด ซูบุห์ เจ้าหน้าที่อาวุโสของกระทรวงสาธารณสุข ออกมาชี้แจงว่า ปัญหานี้เกิดจาก “ความผิดพลาดในการพิมพ์”
“เราได้ออกแถลงขอโทษประชาชนแล้ว และกำลังถอดโปสเตอร์ชุดเก่าออกเพื่อนำของใหม่ไปเปลี่ยนแทน”
“พวกเขาพิมพ์ตกคำว่า ‘ไม่’ แต่ทุกอย่างเกิดจากความผิดพลาดโดยบริสุทธิ์ใจ”
ซูบุห์บอกด้วยว่า โรงพิมพ์ไม่ได้ส่งตัวอย่างโปสเตอร์ที่เสร็จสมบูรณ์ให้กระทรวงตรวจสอบก่อนนำไปติดตั้ง แต่ก็ได้ขออภัยแล้ว
เชื้อเอชไอวี (Human Immunodeficiency Virus) ซึ่งทำให้เกิดภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง (เอดส์) จะติดต่อทางเพศสัมพันธ์ และการใช้เข็มฉีดยาร่วมกันเป็นหลัก
ข้อมูลจากองค์การสหประชาชาติระบุว่า ปัจจุบันมีผู้ติดเชื้อเอชไอวีในแดนอิเหนามากกว่า 660,000 คน ทว่าชาวอินโดนีเซียส่วนใหญ่ยังคงขาดความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับโรคนี้
รักมัต โกเบล อดีตรัฐมนตรีกระทรวงพาณิชย์อินโดนีเซีย เพิ่งถูกสั่งเด้งฟ้าฝ่าเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ หลังพยายามผลักดันให้รัฐบาลสั่งห้ามนำเข้าเสื้อผ้ามือสองจากต่างประเทศ โดยอ้างว่าการสวมเสื้อผ้าของผู้ป่วยเอดส์จะทำให้ติดโรค