เอเอฟพี - หลายพื้นที่ของจีนถูกปกคลุมด้วยหมอกควันอันตราย หลังตรวจพบระดับฝุ่นละอองพิษขนาดเล็กสูงกว่าระดับสูงสุดที่องค์การอนามัยโลกแนะนำถึง 50 เท่า ชาวเน็ตรวมถึงสำนักข่าวซินหวา รุมจวกเจ้าหน้าที่เสิ่นหยังที่อ้างข้างๆ คูๆ ว่า สาเหตุมาจากการใช้ระบบทำความร้อนส่วนกลางขณะที่เข้าสู่ฤดูหนาว กับมลพิษที่พัดพามาจากมณฑลอื่นๆ ขณะที่ชาวจีนบางส่วนกังวลกับความพยายามในการแก้ปัญหามลพิษของรัฐบาล
ภาพมากมายที่เผยแพร่ออกมาแสดงให้เห็นหมอกหนาปกคลุมกระทั่งมองไม่เห็นอาคารต่างๆ ในฉางชุน เมืองเอกของมณฑลจี๋หลิน
ภาพหนึ่งบนโลกออนไลน์เป็นภาพชายคนหนึ่งขี่จักรยานท่ามกลางหิมะในเมืองเสิ่นหยัง เมืองเอกของมณฑลเหลียวหนิง บนใบหน้ามีหน้ากากกันก๊าซพิษแบบวินเทจสวมทับอยู่ ขณะที่สำนักข่าวซินหวารายงานโดยอ้างเจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเมืองดังกล่าวว่า เตียงผู้ป่วยแผนกระบบทางเดินหายใจเต็มหมด
ในการตรวจวัดเมื่อวันจันทร์ (9) ที่เมืองฉางชุนที่มีประชากรราว 8 ล้านคน พบว่า ระดับพีเอ็ม2.5 หรือฝุ่นละอองขนาดเล็กมากที่ถือว่า อันตรายต่อสุขภาพที่สุดนั้น สูงถึง 860 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร เปรียบเทียบกับระดับสูงสุดที่องค์การอนามัยโลก (ฮู) แนะนำที่เฉลี่ยเพียง 25 ไมโครกรัมในระยะเวลา 24 ชั่วโมง
“หมอกควันวันนี้รุนแรงมากและทำให้บรรยากาศน่าอึดอัด ตอนที่เดินออกไปข้างนอก คิดว่ามีบ้านใครไฟไหม้เสียอีก” ผู้ใช้ซินล่าง เวยป๋อคนหนึ่งในฉางชุนโพสต์
รัฐบาลเมืองฉางชุนแถลงบนเว็บไซต์ประกาศมาตรการรับมือเหตุฉุกเฉินระดับ 3 โดยแจ้งให้โรงเรียนต่างๆ ยุติการทำกิจกรรมกลางแจ้ง และเตือนให้ประชาชนอยู่ในอาคาร รวมทั้งใช้มาตรการ “ป้องกันดูแลสุขภาพ” โดยไม่ได้ให้รายละเอียดเพิ่มเติมใดๆ
ทั้งนี้ ปัญหามลพิษเรื้อรังของจีนเกี่ยวโยงกับการเสียชีวิตก่อนวัยอันควรนับแสนราย และกลายเป็นประเด็นหลักที่ทำให้ประชาชนขุ่นเคืองรัฐบาล
พีเอ็ม 2.5 อาจเป็นสาเหตุของโรคหัวใจ โรคหลอดเลือดสมอง และโรคเกี่ยวกับปอด เช่น มะเร็งถุงลมโป่งพอง
ชาวออนไลน์พากันระบายความไม่พอใจอย่างดุเดือด เช่น เรียกร้องให้ลงโทษบริษัทบริการระบบทำความร้อนที่ซื้อพลังงานราคาถูกคุณภาพต่ำจากถ่านหินที่เป็นพิษต่อสิ่งแวดล้อม
ข้อมูลจากสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อมเสิ่นหยังระบุว่า ระดับพีเอ็ม 2.5 โดยรวมพุ่งถึง 1,157 กรัมต่อลูกบาศก์เมตรเมื่อวันอาทิตย์ ขณะที่สถานีทีวีของรัฐซีซีทีวีรายงานว่า บางพื้นที่ ระดับฝุ่นผงนี้ขึ้นถึงขีดสูงสุดที่ 1,400 และทัศนวิสัยการมองเห็นไม่เกิน 100 เมตร ซึ่งถือเป็นค่าสูงสุดเท่าที่เคยมีการบันทึกและเผยแพร่ในจีน
เจ้าหน้าที่สิ่งแวดล้อมของเสิ่นหยังอ้างว่า หมอกที่หนาทึบรุนแรงมีสาเหตุมาจากการเปิดระบบทำความร้อนสาธารณะที่ใช้พลังงานถ่านหินเพื่อให้ความอบอุ่นแก่ประชาชนขณะที่หน้าหนาวเริ่มต้นขึ้นแล้ว รวมทั้งจากมลพิษที่พัดพามาจากมณฑลอื่นๆ
คำอธิบายดังกล่าวเรียกเสียงเย้ยหยันในโลกออนไลน์ “สวีเดนก็มีระบบทำความร้อนส่วนกลาง ไม่เห็นเขาจะมีหมอกควันแบบเราเลย” โพสต์หนึ่งตั้งคำถาม
ซินหวาวิจารณ์คำอธิบายของสำนักงานจัดการเหตุฉุกเฉินเสิ่นหยังว่า “ไร้สาระ” ท่ามกลางหมอกควันและมลพิษที่รุนแรงที่สุดในรอบปีนี้
ขณะเดียวกัน เสียงวิจารณ์ในโซเชียลมีเดียบางส่วนแสดงความกังวลว่า ความพยายามของรัฐบาลในการแก้ไขมลพิษทางอากาศเล็กน้อยและสายเกินไป
ผู้ใช้คนหนึ่งโพสต์ว่า “มลพิษสิ่งแวดล้อมเป็นสาเหตุของโรคเรื้อรังมากขึ้นจนกลายเป็นเรื่องปกติ และเรากำลังกลายเป็นคนป่วยแห่งเอเชียในศตวรรษใหม่”