เอพี - เมื่อวานนี้ (4 พ.ย.) ผู้เชี่ยวชาญเม็กซิกันและอาร์เจนตินาร่วมกันขุดจูลิโอ ซีซาร์ มอนดรากอน (Julio Cesar Mondragon) ร่างนักศึกษาเม็กซิโกวัย 22 ปี ที่เสียชีวิตโดยมีใบหน้าถูกกรีดออกทั้งหมดด้วยมีด และคาดว่าถูกสังหารไม่กี่ชั่วโมงหลังจากนักศึกษาฝึกหัดครูเม็กซิกันจำนวน 43 คนที่ได้หายตัวไปในปีที่ผ่านมา
เอพีรายงานเมื่อวานนี้ (4) ว่า ร่างของจูลิโอ ซีซาร์ มอนดรากอน (Julio Cesar Mondragon)นักศึกษาเม็กซิโกวัย 22 ปีต้องถูกขุดขึ้นมาอีกครั้งเพื่อการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ตามคำขอของครอบครัว และทางผู้เชี่ยวชาญจากทั้งเม็กซิโกและอาร์เจนตินาได้นำไปยังกรุงเม็กซิโกซิตีเพื่อทำการชันสูตรใหม่อีกครั้ง ซึ่งคณะกรรมการสอบสวนอิสระที่ตั้งโดยหน่วยงานอินเตอร์อเมริกาคอมมิชชันได้ประเมินว่าผลการชันสูตรในครั้งแรกนั้นไม่น่าเชื่อถือเนื่องจากมีข้อมูลที่ขัดแย้ง ซึ่งเป็นเหตุให้ทางครอบครัวของเหยื่อวัย 22 ปีได้ร้องเรียนให้มีการตรวจสอบทางนิติวิทยาศาสตร์ใหม่อีกครั้ง
เอพีรายงานว่า มอนดรากอนเป็น 1 ใน 6 คนที่ถูกสังหารในเดือนกันยายน 2014 ในเมืองอิกัวลา รัฐเกร์เรโร ซึ่งเป็นสถานที่เกิดเหตุนักศึกษาฝึกหัดครูทั้ง 43 คนที่ศึกษาในวิทยาลัยฝึกหัดรู Raul Isidro Burgos ในเมืองอายอตซินาปา (Ayotzinapa) ถูกลักพาตัวไป
แต่ทว่าคดีของคนทั้ง 6 ซึ่งเป็นนักศึกษา 3 ราย และชาวเมืองอิกัวลาในพื้นที่อีก 3 รายกลับไร้ความคืบหน้า
เอพีรายงานว่า มอนดรากอนมีสถานภาพสมรสในขณะเสียชีวิต และในการชันสูตรศพของมอนดรากอนในทั้งแรก เจ้าหน้าที่ชี้ว่าใบหน้าของชายหนุ่มผู้นี้ที่ถูกทำลายอาจเกิดจากการถูกกรีดออกทั้งหมดด้วยมีดซึ่งถือเป็นวิธีในการทำลายหลักฐานของขบวนการค้ายาเสพติดเม็กซิโกที่นิยมใช้กันแพร่หลาย แต่ทว่า ในรายงานชันสูตรนี้กลับยังอ้างความเป็นไปได้ที่หน้าที่ถูกทำลาย อาจเกิดจากการกัดแทะของสัตว์จนทำให้ไม่สามารถพิสูจน์ว่าเป็นร่างของมอนดรากอนหรือไม่ ซึ่งทำให้ครอบครัวของนักศึกษาวัย 22 ปีได้ประณามผลการชันสูติครั้งนั้นว่า “น่าขบขัน”
อย่างไรก็ตาม ทีมผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับการแต่งตั้งจากหน่วยงานอินเตอร์อเมริกันคอมมิชชันด้านสิทธิมนุษยชนได้ให้ความเห็นว่า ร่างของมอนดรากอนมีร่องรอยถูกทรมานอย่างชัดเจน แต่ในการชันสูตรที่กระทำโดยเจ้าหน้าที่รัฐบาลเม็กซิโกไม่ได้ระบุถึงเรื่องนี้ในรายงานผล และทำให้ครอบครัวเหยื่อกล่าวหาว่าเจ้าหน้าที่ของเม็กซิโกตั้งแต่ระดับท้องถิ่นไปจนถึงระดับหน่วยงานรัฐบาลกลางปกปิดความจริง และได้เรียกร้องให้หน่วยงานอิสระจากหน่วยงานนิติวิทยาศาสตร์มานุษยวิทยาอาร์เจนตินา (the Argentine Forensic Anthropology) เข้ามาทำหน้าที่สอบสวนใหม่อีกครั้ง โดยเป็นพยานในการขุดศพมอนดรากอนขึ้นมาใหม่
เอพีรายงานว่า ทีมนิติวิทยาศาสตร์จากอาร์เจนตินาได้ศึกษาหลักฐานคคดี 43 นักศึกษาฝึกหัดครูอิกัวลาด้วยเช่นกัน
ด้าน Cuitlahuac Mondragon ผู้เป็นลุงของมอนดรากอนเปิดเผยว่า การตัดสินใจขุดศพหลานขึ้นมาอีกครั้งนั้นเป็นการตัดสินใจที่ยากลำบาก เพราะทำให้ครอบครัวต้องเศร้าโศกเสียใจอีกครั้ง แต่ถือเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องดำเนินการ โดยเขากล่าวว่าสิ่งเดียวที่ทางครอบครัวร้องขอคือความจริง