เอเจนซีส์ – สื่อรัสเซีย อินเตอร์แฟกซ์ รายงาน แหล่งข่าวเปิดเผยพบกล่องดำเครื่องบินเมโทรเจ็ตรัสเซีย A-321 บันทึกเสียงประหลาดที่ไม่สามารถระบุได้จากภายในห้องนักบินไม่กี่วินาทีที่เครื่องบินจะหายไปจากจอเรดาร์ ในขณะที่ผู้เชี่ยวชาญเริ่มต้นการตรวจสอบกล่องดำทั้งสองของเที่ยวบินมรณะนี้ ซึ่งมาถึงเวลานี้ อียิปต์ปฎิเสธก่อการร้ายเกี่ยวข้องกับการตก แต่สหรัฐฯยังไม่ตัดข้อสงสัยนี้
เดอะการ์เดียน สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(3)ว่า ถึงแม้อียิปต์จะปฎิเสธความเกี่ยวข้องของกลุ่มก่อการร้าย IS และการตกของเครื่องบินโดยสารรัสเซียเมโทรเจ็ต A-321 ในขณะที่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯยังคงไม่ตัดประเด็นนี้ออกไป
ซึ่งเป็นที่คาดว่าทีมเจ้าหน้าที่สอบสวนนานาชาติจาก อียิปต์ รัสเซีย และฝรั่งเศสจะสรุปหลักฐานที่ได้จากสถานที่ตก และจะเริ่มต้นตรวจสอบกล่องดำทั้งสองกล่องของเมโทรเจ็ต A-321 ที่เพิ่งพบก่อนหน้านี้
ทั้งนี้จากรายงานพบว่า เที่ยวบิน7K-9268 ได้หายไปจากจอเรดาร์หลังจากที่เครื่องขึ้นเท็กออฟออกจากท่าอากาศยานอียิปต์ Sharm el-Sheikh ไปแล้ว 23 นาที ซึ่งมาจนถึงเวลานี้รายงานบันทึกไฟลท์การบินอย่างเป็นทางการยังไม่ถูกเปิดเผย แต่ทว่าล่าสุดสื่อรัสเซียอินเตอร์แฟกซ์ รายงานจากแหล่งข่าวที่ไม่เปิดเผยชื่อ ซึ่งเป็นข้อมูลที่ยังไม่ได้รับการยืนยันระบุว่า มีการค้นพบเสียงที่ไม่สามารถระบุได้เกิดขึ้นภายในห้องนักบินคนขับก่อนที่เครื่องบินลำนี้จะหายไปจากจอเรดาร์ในวันเสาร์(31 ตค.) แต่แหล่งข่าวยังคงยืนยันนักบินไม่ได้ส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือ
อินเตอร์แฟกซ์รายงานต่อว่า นักบินเที่ยวบิน 7K-9268ได้คุยกับหอบังคับการบินเป็นเวลา 4 นาทีตามปกติก่อนที่เครื่องบินจะหายไปจากจอเรดาร์ และไม่มีสิ่งแสดงความผิดปกติออกมาในการสนทนานั้น แต่ทว่าจากคำกล่าวของแหล่งข่าวของสื่อรัสเซียได้ให้รายละเอียดว่า “พบเสียงที่ไม่สามารถระบุที่มาหรือประเภทได้ในห้องนักบินของเที่ยวบินโดยสารนี้ ซึ่งถูกบันทึกไว้ก่อนที่เที่ยวบินนี้จะหายไปจากจอเรดาร์” และข้อมูลจากล่องดำสามารถชี้ว่า “เป็นสถานการณ์ที่เกิดขึ้นฉับพลันและคาดไม่ถึง” แหล่งข่าวกล่าว
นอกจากนี้ RIA Novosti สื่อรัฐบาลรัสเซียได้รายงานคำพูดของเจ้าหน้าที่สอบสวนคนหนึ่งชี้ว่า รูปแบบการได้รับบาดเจ็บของผู้โดยสารทำให้เข้าใจได้ว่า อาจมีการระเบิดขึ้นก่อนที่เครื่องบินจะกระแทกพื้น
และนอกจากนี้ยังมีรายงานในรัสเซียเปิดเผยว่า มีลูกเรือบางส่วนกังวลในสภาพของเครื่องบินลำเกิดเหตุ ซึ่งทำให้มีผู้ตั้งข้อสังเกตเพิ่มมากขึ้นถึงความเป็นไปได้ว่า อาจคล้ายเหตุการณ์ในปี 2001 ซึ่งเกิดในไคโร อียิปต์ ที่บริเวณหางของเครื่องบินแอร์บัส 321 กระแทกเข้ากับพื้นผิวรันเวย์ในขณะกำลังร่อนลง และทำให้โครงเครื่องบินได้รับความเสียหาย
นอกจากนี้ สื่ออังกฤษยังรายงานเพิ่มเติมว่า ได้มีการเปิดเผยถึงข้อมูลการบินผ่านทางเว็บไซต์ FlightRadar24 เว็บไซต์เชี่ยวชาญติดตามการเคลื่อนไหวเที่ยวบิน
ซึ่งจากข้อมูลพบว่า เมโทรเจ็ตA-321นั้นไต่ระดับบินเพดานสูงอย่างรวดเร็วก่อนที่จะร่วงลงมา ซึ่งเป็นรูปแบบที่ผู้เชี่ยวชาญบางคนให้ความเห็นว่า เป็นรูปแบบที่แสดงให้เห็นว่าเครื่องบินได้เสียส่วนหางไป ซึ่งได้รับการยืนยันจากหลักฐานภาพถ่ายของเครื่องบินเมโทรเจ็ต A-321 ลำเดียวกันนี้ที่ได้ถ่ายไว้ในช่วงไม่กี่เดือนในปี 2015 ซึ่งภาพถ่ายแสดงให้เห็นถึงสีที่เปลี่ยนและความเสียหายในส่วนแพนหาง ซึ่งมีนักบินบางส่วนให้ความเห็นว่าเกิดมาจากการรั่วไหลของการกัดกร่อน
เดอะการ์เดียนรายงานเพิ่มเติมว่า สหรัฐฯได้ออกคำสั่งห้ามไม่ให้เจ้าหน้าที่การทูตของตนเดินทางในคาบสมุทรไซนาย ในขณะที่เจมส์ แคลปเตอร์ ผู้อำนวยการสำนักงานสบสวนกลางสหรัฐฯ CIA ยืนยันว่า ยังไม่สามารถตัดประเด็นข้อสงสัยก่อการร้ายออกไปได้ ถึงแม้จะยอมรับว่า ในขณะนี้ยังไม่มีหลักฐานแสดงความเชื่อมโยงให้เห็นว่า เครื่องบินโดยสารรัสเซียถูกกลุ่มก่อการร้าย IS ทำให้ตกจริง
แต่ทว่า ประธานาธิบดีอียิปต์ อัลเดล ฟาตาห์ ซิซี ยืนยันถึงความปลอดภัยในการเดินทางบนคาบสมุทรไซนายถึงแม้จะมีกลุ่มติดอาวุธท้องถิ่นที่มีความเชื่อมโยงกับกลุ่มก่อการร้าย ISออกปฎิบัติการในบริเวณนั้น