เอเจนซีส์ - ตำรวจอิหร่านบุกเข้าตรวจค้นและสั่งปิดร้านไก่ทอดแห่งหนึ่ง โดยอ้างว่าเป็นสาขาของไก่ทอด “เคเอฟซี” ของอเมริกาซึ่งไม่มีใบอนุญาตประกอบการในอิหร่าน สื่อท้องถิ่นรายงานวานนี้ (3 พ.ย.)
“ตำรวจได้สั่งปิดร้านอาหารเคเอฟซีซึ่งเปิดดำเนินการอย่างผิดกฎหมาย และใช้ใบอนุญาตปลอม” เว็บไซต์ข่าวของสมาคมผู้สื่อข่าวรุ่นเยาว์ (Young Journalist Club) ซึ่งเป็นองค์กรในเครือสถานีโทรทัศน์แห่งชาติอิหร่าน ระบุ
ทั้งนี้ ร้านขายไก่ทอดเคเอฟซี ฮาลาล เพิ่งจะเปิดตัวมาได้เพียง 3 วันเท่านั้น
หลังจากอิหร่านได้ทำข้อตกลงควบคุมนิวเคลียร์กับชาติมหาอำนาจเมื่อเดือนกรกฎาคม ก็มีกลุ่มทุนจากตะวันตกหลั่งไหลเข้าไปแสวงหาโอกาสในการประกอบธุรกิจ โดยหวังว่ามาตรการคว่ำบาตรที่บังคับใช้มาหลายปีจะถูกผ่อนคลายลงเรื่อยๆ หากอิหร่านปฏิบัติตามคำมั่นสัญญาที่ให้ไว้
ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศที่เริ่มผ่อนคลายทำให้บริษัทฟาสต์ฟูดชื่อดังของสหรัฐฯ อย่าง แมคโดนัลด์ และเคเอฟซี เริ่มมองหาช่องทางเข้าไปเปิดสาขาในอิหร่าน ซึ่งเรื่องนี้กำลังเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในกลุ่มชาวอิหร่านหัวอนุรักษ์นิยม
อับบาส ปาซูกี ผู้จัดการ เคเอฟซี ฮาลาล ยืนยันว่า ร้านของเขาไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับแบรนด์ไก่ทอดยอดนิยมของสหรัฐฯ
“การสั่งปิดเคเอฟซี ฮาลาล เกิดจากความเข้าใจผิด” ปาซูกีให้สัมภาษณ์ต่อสำนักข่าวตัสนีม
อาลี ฟาเซลี ประธานสภาหอการค้าแห่งอิหร่าน ยืนยันต่อสำนักข่าว ILNA ว่า “ยังไม่มีเครือร้านอาหารสัญชาติอเมริกันเข้ามาเปิดสาขาในอิหร่านแน่นอน”
“ผลิตภัณฑ์อาหารที่จำหน่ายในร้านเคเอฟซีของอิหร่าน ไม่มีอะไรเกี่ยวข้องกับเคเอฟซีในสหรัฐฯ”
“ตามคำสั่งของท่านผู้นำสูงสุด (อยาตอลเลาะห์ อาลี คอเมเนอี) เราไม่เคยออกใบอนุญาตประกอบการให้แก่อุตสาหกรรมอาหารแบรนด์ตะวันตก”
เมื่อวานนี้ (3) คอเมเนอี ได้เรียกร้องให้ชาวอิหร่าน “ระมัดระวัง” สหรัฐฯ ซึ่งไม่เคยเปลี่ยนแปลงจุดยืน แม้จะมีการทำข้อตกลงนิวเคลียร์กับอิหร่านแล้วก็ตาม ขณะที่เมื่อวันจันทร์ (2) สมาชิกรัฐสภาอิหร่านส่วนใหญ่ก็โหวตให้รัฐบาลยังคงยึดมั่นในสโลแกน “อเมริกาไปตายเสีย” (Death to America)