เอเอฟพี - ชาวโรมาเนียในวันอังคาร (3 พ.ย.) เชิดชูชาย 2 คนที่สละชีพตนเองช่วยเหลือคนหนุ่มสาวหลายคนที่ติดอยู่ท่ามกลางเปลวเพลิงที่กำลังโหมไหม้ไนต์คลับแห่งหนึ่งในกรุงบูคาเรสต์ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยยกย่องพวกเขาในฐานะวีรบุรุษ ที่ให้บทเรียนแห่งความรักและชีวิตแก่คนทั้งประเทศ
เหตุไฟไหม้เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมาซึ่งคร่าชีวิต 32 ศพและบาดเจ็บเกือบ 200 คน อาจเป็นหายนะเลวร้ายกว่านี้หากว่านายเคลาดิอู ปีเตอร์ นักฟิสิกส์ฝึกหัด และอาเดรียน รูกินา มือกลอง ไม่ได้อยู่ที่โคเลคทีฟดิสโก้ ที่การลักลอบจุดพลุไฟผิดกฎหมาย จนกลายเป็นชนวนเหตุของโศกนาฏกรรมอันน่าสยดสยอง
“เคลาดิอู ปีเตอร์ เป็นชายที่ยอดเยี่ยม มีไหวพริบและเป็นคนร่าเริง” มาริอุส เพื่อนตั้งแต่วัยเด็กของเขากล่าวทั้งน้ำตา “เขารู้ดีว่าควันพิษมีผลอย่างไร แต่เขาก็เลือกที่จะเพิกเฉยต่ออันตรายกลับเข้าไปในไนต์คลับถึง 2 ครั้งเพื่อช่วยผู้คนออกมา”
ผู้เห็นเหตุการณ์บอกว่า การจุดพลุไฟเป็นต้นตอของเหตุเพลิงไหม้ที่โคเลคทีฟดิสโก้ ซึ่งเดิมเป็นที่ตั้งของโรงงานผลิตรองเท้า จากนั้นเปลวเพลิงที่โหมไหม้ก็กลายเป็นชนวนให้เกิดเหตุเหยียบกันตายหมู่เนื่องจากเหล่านักเที่ยวนักดื่มต่างเบียดเสียดแย่งกันหนีตายออกมา
ปีเตอร์เสียชีวิตหลังกลับเข้าไปในดิสโก้ที่ไฟกำลังโหมกระพือเป็นครั้งที่ 2 โดยเขาสิ้นลมหายใจบนรถฉุกเฉินที่กำลังพาตัวไปส่งโรงพยาบาลจากพิษของควันไฟที่สูดเข้าไป
เหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ยังคร่าชีวิตมือกีตาร์ 2 คนของวงร็อกท้องถิ่น Goodbye to Gravity which ซึ่งกำลังเปิดการแสดงในไนต์คลับท่ามกลางผู้ชมราวๆ 300 ถึง 500 คน ส่วนสมาชิกของวงอื่นๆอีก 3 คนได้รับบาดเจ็บสาหัส
ไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้าเกิดเหตุ อาเดรียน รูกินา มือกลองวัย 38 ปี เพิ่งระดมเพื่อนๆ ให้มายังโคเลคทีฟดิสโก้เพื่อดูคอนเสิร์ตที่ไม่ควรพลาด ทั้งนี้เขาก็เช่นเดียวกับ ปีเตอร์ ที่หนีรอดเปลวเพลิงออกมาได้แล้ว แต่สุดท้ายก็จบชีวิตจากอาการบาดเจ็บ หลังตัดสินใจกลับเข้าไปในอาคารหลายต่อหลายรอบเพื่อลำเลียงคนเจ็บมายังที่ปลอดภัย
“คนหนุ่ม 2 คนนี้กลับเข้าไปยังไนต์คลับที่กำลังถูกเปลวเพลิงเผาผลาญหลายครั้ง เพื่อปกป้องคนที่พวกเขารัก ผมไม่รู้ว่าถ้าเป็นตนเองจะยอมเสี่ยงตายกลับเข้าไปข้างในสักครั้งไหม” เอียน ฟลอริน บาทหลวงออร์โธดอกซ์เขียนลงบล็อก “เคลาดิอูและอาเดรียน มอบบทเรียนแห่งชีวิตและความรักแก่เรา ผมขอคารวะความเสียสละที่ยิ่งใหญ่ของพวกเขา”
อย่างไรก็ตาม คำพูดของบาทหลวงฟลอรินดูจะสวนทางกลับเหล่าผู้อาวุโสของโบสถ์ออร์โธดอกซ์ ที่วิพากษ์วิจารณ์คนหนุ่มสาวอย่างหนักหน่วงกรณีที่แห่กันไปฟังเพลงของ “พวกซาตาน” ในงานคอนเสิร์ตซึ่งจัดขึ้นก่อนหน้าวันฮัลโลวีน