เอพี / เอเจนซีส์ / ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - คณะอัยการของโรมาเนียเผย เริ่มกระบวนการสอบสวนในวันจันทร์ (2 พ.ย.) ต่อ 3 เจ้าของไนต์คลับ “Colectiv” ที่เกิดเหตุเพลิงไหม้และเหตุเหยียบกันตายกลางกรุงบูคาเรสต์เมื่อปลายสัปดาห์ก่อน โดยระบุอาจมีการตั้งข้อหา “ฆาตกรรม” หากพบว่า ทั้งหมดมีส่วนพัวพันกับการเกิดโศกนาฏกรรมดังกล่าว ที่ล่าสุดทำให้มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเป็นอย่างน้อย 30 ราย และมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีก 180 ราย
รายงานข่าวล่าสุดจากเมืองหลวงของโรมาเนียระบุว่า คณะอัยการได้เริ่มสอบปากคำเจ้าของร่วมทั้ง 3 รายของไนต์คลับแห่งดังกล่าวแล้วในวันจันทร์ (2) โดยย้ำว่าในขณะนี้ ทั้ง 3 คนยังมีสถานะเป็นเพียง “ผู้ต้องสงสัย” ในเหตุโศกนาฏกรรมดังกล่าวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนวันศุกร์ (30 ต.ค.) ที่ผ่านมา
อย่างไรก็ดี รายงานซึ่งอ้างแหล่งข่าวในสำนักงานอัยการโรมาเนียระบุว่า อาจมีการตั้งข้อหาร้ายแรง รวมถึงข้อหา “ฆาตกรรม” ต่อเจ้าของไนต์คลับทั้ง 3 ราย หากผลการสอบสวนพบว่า ทั้งหมดมีความเกี่ยวข้องไม่ทางตรงก็ทางอ้อมต่อเหตุสลดที่เกิดขึ้น
ขณะที่ล่าสุดมีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุเพลิงไหม้ไนต์คลับแห่งดังกล่าวได้เพิ่มขึ้นเป็น 30 รายแล้วในวันจันทร์ (2) ส่วนผู้ได้รับบาดเจ็บที่ยังต้องพักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาลล่าสุดยังมีอีกกว่า 90 ราย หลายรายในจำนวนนี้มีอาการสาหัส และอาจเสียชีวิตลงในไม่ช้า
ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ (1 พ.ย.) วันเดียวกับที่ทีมเจ้าหน้าที่ด้านนิติวิทยาศาสตร์ของโรมาเนียเริ่มทำการชันสูตรพลิกศพ เหยื่อรายแรกจากเหตุสลดนี้ มีรายงานข่าวซึ่งอ้างราเอ็ด อราฟัต รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกิจการภายในของโรมาเนีย ระบุว่า พบผู้เสียชีวิตเพิ่มเติมอีก 2 รายซึ่งเสียชีวิตที่โรงพยาบาลหลังถูกนำตัวเข้ารับการรักษาอาการบาดเจ็บจากเหตุเพลิงไหม้และการเหยียบกันตายขณะหนีเอาชีวิตรอดที่ไนต์คลับแห่งดังกล่าวที่มีชื่อว่า “Colectiv” และตั้งอยู่ที่ชั้นล่างสุดของอาคารแห่งหนึ่งในย่านใจกลางเมืองหลวงของโรมาเนีย
เมื่อวันเสาร์ (31 ต.ค.) ที่ผ่านมา รัฐบาลโรมาเนียประกาศให้มีการไว้อาลัย เป็นเวลา 3 วันทั่วประเทศแก่บรรดาผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ขณะที่กระบวนการสืบสวนสอบสวนและการชันสูตรพลิกศพผู้เสียชีวิตได้เริ่มต้นขึ้นอย่างเป็นทางการแล้วในวันอาทิตย์ (1 พ.ย.)
หลังเกิดเหตุ ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนึ่งเปิดเผยว่ามีการจุดพลุไฟภายในไนต์คลับ จากนั้นเสาและเพดานก็เริ่มติดไฟ และต่อมาก็เกิดระเบิดตูมสนั่น ก่อควันโขมงไปทั่ว ขณะที่ภาพข่าวจากสถานีโทรทัศน์ท้องถิ่นในวันเกิดเหตุเผยให้เห็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและทีมแพทย์อาสาสมัครกำลังกู้ ชีพคนหนุ่มสาวที่กำลังนอนหายใจรวยรินอยู่บนทางเท้า ท่ามกลางเสียงไซเรนของรถฉุกเฉินที่เดินทางมาสมทบเพิ่มเติม ณ จุดเกิดเหตุ
ด้านกาเบรียล โอเปรีย รองนายกรัฐมนตรีโรมาเนีย บอกว่าเจ้าหน้าที่กำลังดำเนินการสืบสวนหาต้นตอของเหตุการณ์นี้ พร้อมบอกว่าเหตุเพลิงไหม้ครั้งนี้ คือโศกนาฏกรรมที่เลวร้ายที่สุดในรอบหลายทศวรรษที่เกิดขึ้นในเมืองหลวงของประเทศ ขณะที่ประธานาธิบดีเคลาส์ ไอโอฮานนิส เผยผ่านสื่อสังคมออนไลน์ชื่อดังอย่างเฟซบุ๊กว่า รู้สึกช็อกอย่างยิ่งและว่า “นี่เป็นช่วงเวลาที่น่าเศร้าสำหรับประเทศโรมาเนีย”