เอเอฟพี - ธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด สถาบันการเงินสัญชาติอังกฤษ ประกาศปลดพนักงาน 15,000 ตำแหน่งและเตรียมแผนเพิ่มทุน 5,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หลังผลประกอบการในไตรมาสที่ 3 ปีนี้ขาดทุนยับเยินจนเป็นที่ “น่าผิดหวัง”
ธนาคารแถลงวันนี้ (3 พ.ย.) ว่า การปลดพนักงานเป็นส่วนหนึ่งของแผนปรับโครงสร้างใหญ่ ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายประมาณ 3,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โฆษกหญิงของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดปฏิเสธที่จะให้รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับแผนปลดพนักงานในคราวนี้
ต้นทุนในการปรับโครงสร้างกว่าครึ่งจะมาจากการนำสินทรัพย์และธุรกิจบางส่วนออกขายทอดตลาด ส่วนที่เหลือจะได้จากการลดจำนวนพนักงานลง 15,000 ตำแหน่ง และการลดมูลค่าทรัพย์สินในบัญชี (write downs)
ธนาคารมีผลประกอบการก่อนหักภาษีประจำไตรมาส 3 ขาดทุนถึง 139 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่ง บิล วินเทอร์ส หัวหน้าคณะเจ้าหน้าที่บริหารของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด ชี้ว่าเป็นเรื่อง “น่าผิดหวัง” เมื่อเทียบผลกำไรที่เคยทำได้ถึง 1,530 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เมื่อ 1 ปีก่อนหน้า
รายได้ของธนาคารลดลง 18.4% มาอยู่ที่ 3,680 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในขณะที่ยอดขาดทุนจากการด้อยค่าของสินทรัพย์ (impairment losses) เพิ่มขึ้นจากระดับ 536 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขึ้นมาเป็น 1,230 ล้านดอลลาร์สหรัฐในไตรมาสที่ 3
ธนาคารยังประกาศแผนเพิ่มทุน 5,100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และตั้งเป้าลดรายจ่ายให้ได้ถึง 2,900 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ระหว่างปี 2015-2018 โดยจะหันไปเน้นดึงดูดกลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ฐานะมั่งคั่ง (affluent retail clients) มากกว่ากลุ่มธุรกิจและสถาบันการเงิน
เมื่อเดือนมกราคม สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดประกาศจะปลดพนักงานออก 2,000 ตำแหน่งทั่วโลกในปี 2015 ซึ่งจะช่วยให้รายจ่ายธนาคารลดลงราวๆ 400 ล้านดอลลาร์สหรัฐตามแผนปรับโครงสร้าง
สแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดเคยปลดพนักงานออกไปแล้ว 2,000 ตำแหน่ง ในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปีที่แล้ว
ผลกำไรของสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ดในช่วงครึ่งปีแรกดิ่งฮวบลงถึง 36.7% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปี 2014
ก่อนหน้านี้ ผู้บริหารของธนาคารถึงกับต้องยอมสละเงินโบนัส เมื่อผลกำไรตลอดทั้งปีลดลง 37% เหลือแค่ราวๆ 2,510 ล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2014