เอเจนซีส์/ASTV ผู้จัดการออนไลน์ - หลังจากที่ โดนัลด์ ทรัมป์ เศรษฐีอเมริกันที่สร้างความนิยมจากความเป็นคนปากกล้าท้าชน และเป็นตัวของตัวเอง นำโด่งเป็นเต็งหนึ่งมานานไม่ต่ำกว่า 4 เดือน ล่าสุดการสำรวจความนิยมในตัวผู้สมัครในฝั่งพรรครีพับลิกันของสื่อสหรัฐฯ สองค่ายจับมือร่วมกัน NBC และวอลล์สตรีทเจอร์นัล ในช่วงระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม พบว่า นายแพทย์เบน คาร์สัน ที่มีเอกลักษณ์เป็นผู้ที่มีวาทศิลป์ด้วยน้ำเสียงทำให้คนคล้อยตาม และมีเอกลักษณ์ที่โดดเด่นในการนำศาสนาคริสต์เข้ามาในสนามการเลือกตั้ง สามารถขึ้นนำเป็นอันดับ 1 แซงหน้าทรัมป์ได้สำเร็จแล้วด้วยตัวเลขความนิยมสองหลัก 29% ในขณะที่อันดับสองเช่นทรัมป์ได้ไปเพียง 23% เท่านั้น
NBC News สื่อสหรัฐฯ รายงานเมื่อวานนี้ (2) ถึงการเปลี่ยนแปลงลำดับการขึ้นเป็นผู้นำในฝั่งพรรครีพับลิกัน หรือที่รู้จักในนาม GOP ว่า ล่าสุดจากการสำรวจความนิยมในตัวผู้สมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ของ NBC และวอลลล์สตรีทเจอร์นัล ระหว่างวันที่ 25-29 ตุลาคม 2015 พบว่า ผู้สมัครที่เคร่งศาสนาและปฎิเสธการมีอยู่ของปัญหาโลกร้อน เช่น อดีตนายแพทย์ศัลยกรรมสมอง เบน คาร์สัน สามารถขึ้นนำ ผู้นำเช่น โดนัลด์ ทรัมป์ ได้สำเร็จ
สื่อสหรัฐฯ ยังชี้ว่า ความนิยม 29% ที่คาร์สันได้ไปล่าสุดนั้นสูงที่สุดกว่าที่ทรัมป์ หรือผู้สมัครคนอื่นเคยได้รับในอดีตที่ผ่านมา
นอกจากนี้ ในผลสำรวจนี้ยังชี้ว่ามีเพียงแค่คาร์สัน 29% และทรัมป์ 23% ถือเป็นเพียงสองผู้สมัครในฝั่ง GOP ที่มีคะแนนเกิน 20% ซึ่งในอันดับ ส.ว.รัฐฟลอริดา มาร์โก รูบิโอ ที่ตามมาเป็นอันดับ 3 ได้ไปเพียง 11% ส่วนอันดับ 4 หรือ 10% ตกเป็นของ ส.ว.รัฐเทกซัส เท็ด ครูซ และอันดับ 5 อดีตผู้ว่าการรัฐฟลอริดา เจบ บุช ได้ไปเพียง 8% เท่านั้น
และพบว่าผลโพลความนิยมของ NBC และวอลล์สตรีทเจอร์นัลยังไม่แตกต่างจากผลสำรวจความนิยมของหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทม์ส และสื่อ CBS ที่ออกมาในสัปดาห์ที่แล้ว ชี้ว่า เบน คาร์สันได้ก้าวขึ้นมาเป็นอันดับ 1 ในฝั่ง GOP อย่างสมบูรณ์แบบ
ทั้งนี้ เฟรด แยง (Fred Yang) จากบริษัทวิจัย Hart Research Associates และนักวิจัยโพลของพรรคเดมแครต ที่ได้จับมือร่วมกับ บิล แม็กอินเทิร์ฟฟ์ (Bill McInturff) นักวิจัยการทำผลสำรวจของพรรครีพับลิกันซึ่งได้จัดทำผลสำรวจนี้ชี้ว่า “หากผลสำรวจที่ผ่านมาทำให้ประจักษ์ว่าทรัมป์เป็นผู้นำในฝั่ง GOP เช่นนั้นแล้วผลการสำรวจความนิยมล่าสุดนี้แสดงให้เห็นว่า นายแพทย์เบน คาร์สัน เป็นผู้สมัครที่ชาวรีพับลิกันให้ความนิยมในปัจจุบัน”
NBC News ยังรายงานเพิ่มเติมว่า ในต้นเดือนตุลาคม ก่อนที่จะมีดีเบตรอบที่ 3 ซึ่งจัดโดยสื่อสหรัฐฯ CBS ภายใต้ชื่อ “Your Money, Your Vote” ในวันที่ 28 ตุลาคม 2015 ที่มหาวิทยาลัยรัฐโคโลราโด ซึ่งสื่อในสหรัฐฯ เรียกการดีเบตในฝั่งรีพับลิกันว่า Kid’stable ตามลักษณะการดีเบตของฝั่งรีพับลิกันที่ทุกคนต่างแย่งกันพูด ปรากฎว่าความนิยมของทรัมป์ในช่วงต้นเดือนตุลาคมอยู่ที่ 25% และเป็นผู้นำอันดับ 1 ในขณะที่คาร์สันตามมาในอันดับ 2 ที่ 22% ส่วนรูบิโอเป็นอันดับ 3 อยู่ที่ 13% และอันดับ 4 ของครูซที่ 9 % และรั้งท้ายอันดับ 5 ตกเป็นของบุชที่ 8%
สื่อสหรัฐฯ ยังชี้ว่า คาร์สันที่เป็นผู้นำในฝั่งรีพับลิกันในขณะนี้นั้น ผลโพลล่าสุดของ NBC และวอลล์สตรีทเจอร์นัลยังชี้ว่า คาร์สันยังเป็นผู้สมัครคนแรกของ GOP ที่ได้รับการสนับสนุนจากฐานเสียงส่วนใหญ่ถึง 50% ของพรรครีพับลิกันในฐานะเป็นตัวเลือกแรก และตัวเลือกที่สองในการลงชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 และตามมาด้วย 35% ของทรัมป์ และรูบิโอได้รับการสนับสนุนเป็นตัวเลือก 24% และครูซราว 23%
อย่างไรก็ตาม แยงชี้ว่าถึงแม้เป็นที่ประจักษ์ว่าคาร์สันได้รับการสนับสนุนในวงกว้าง แต่เรายังไม่รู้ว่า การสนับสนุนนั้นหยั่งรากลึกมากเพียงใด
ด้านแม็คอินทัฟ ผู้วิจัยร่วมกับแยงให้ความเห็นว่า ผลโพลที่ปรากฏครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าจะถาวร แต่เป็นสิ่งที่ควรพิจารณาเมื่อพบว่านายแพทย์ผู้นี้ได้รับเลือกให้เป็นตัวแรกและรวมไปถึงตัวเลือกที่ 2 จากฐานเสียงพรรครีพับลิกัน
คาร์สันเป็นผู้สมัครได้ขึ้นชื่อนำศรัทธาพระเจ้าเข้ารวมกับการเมืองสหรัฐฯ และได้เคยถามทรัมป์ถึงการมีศรัทธาต่อพระเจ้ามาแล้วในช่วงที่ทรัมป์ขึ้นเป็นผู้นำในฝั่ง GOP ซึ่งได้รับการตอบโต้จากทรัมป์ในขณะนั้นว่า ไม่ควรใช้ความเชื่อทางศาสนามาทำลายคู่ต่อสู้ทางการเมือง ซึ่งในสหรัฐฯ ศาสนาคริสต์เป็นเหตุผลและอิทธิพลในการเมืองสหรัฐฯ ซึ่งเห็นได้จากนโยบายการเมืองหลายอย่าง เป็นต้นว่า การแต่งงานของเพศที่ 3 ที่ถึงแม้จะได้รับคำวินิจฉัยจากศาลสูงสหรัฐฯ แต่กระนั้นยังได้รับการต่อต้านเป็นจำนวนมากในรัฐสภาสหรัฐฯ และบนท้องถนน เนื่องจากขัดต่อความเชื่อทางศาสนาคริสต์
คาร์สันเริ่มเปิดตัวการลงชิงประธานาธิบดีสหรัฐฯผ่านวิดีโอคลิปบนอินเตอร์เนตได้สื่อข้อความไปยังชาวสหรัฐฯ โดยอิงกับความศรัทธาที่แสดงโดยนัยว่า พระเจ้าเป็นเหตุผลให้เขาต้องมารับผิดชอบในการลงสมัครครั้งนี้ และเป็นเพราะความเป็นผู้เชื่อมั่นในหลักศาสนาคริสต์ ถึงแม้จะมีอาชีพเป็นแพทย์ที่ต้องใช้ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ แต่กระนั้นคาร์สันยังปฏิเสธความจริงตามหลักวิทยาศาสตร์เรื่องโลกร้อน หรือโกลบัลวอร์มมิง ทั้งๆ ที่นักวิทยาศาสตร์ทั่วโลกต่างรับรอง