เอเอฟพี - สำนักงานสอบสวนกลางสหรัฐฯ (เอฟบีไอ) ระบุว่าพวกเขาไม่พบหลักฐานว่าการระเบิดที่เกิดขึ้นบนเรือของประธานาธิบดีมัลดีฟส์เกิดขึ้นจากวัตถุระเบิด ก่อให้เกิดคำถามถึงกรณีการจับกุมตัวรองประธานาธิบดีจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ประธานาธิบดีอับดุลลา ยามีน ไม่ได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดบนเรือเร็วของเขา ซึ่งทางการอธิบายว่าเป็นการพยายามลอบสังหาร การระเบิดเมื่อวันที่ 28 กันยายนนั้นทำให้ภรรยาของเขาและคน 2 คนได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย
หลังจากนั้นไม่ถึงเดือนตำรวจได้จับกุมรองประธานาธิบดีอาเหม็ด อาดีน ฐานก่อกบฏ ในขณะที่เขากลับมายังประเทศหมู่เกาะในมหาสมุทรอินเดียแห่งนี้ภายหลังการเดินทางเยือนต่างประเทศอย่างเป็นทางการ
การจับกุมครั้งนั้นเกิดขึ้นก่อนที่จะมีการสั่งปลดเจ้าหน้าที่รัฐบาลหลายคนรวมถึงรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมของยามีน ซึ่งได้กระตุ้นกระแสความกังวลเกี่ยวกับความไร้เสถียรภาพทางการเมืองและยิ่งส่งผลเสียหายต่อภาพลักษณ์ของมัลดีฟในฐานะจุดหมายปลายทางของนักท่องเที่ยวรายได้สูง
หลังจากการตรวจสอบหลักฐาน เอฟบีไอพบว่าเศษชิ้นส่วนจากการระเบิด ซึ่งตอนแรกคิดว่าอาจเป็นเศษชิ้นส่วนของวัตถุระเบิด แท้จริงกลับเป็นชิ้นส่วนบของเรือลำดังกล่าว หนังสือพิมพ์วอลสตรีทเจอร์นัลรายงานเมื่อวานนี้ (31)
“ไม่มีหลักฐานใดเลยที่จะบ่งชี้ว่าการระเบิดบนเรือครั้งนั้นเกิดจากระเบิดแสวงเครื่อง” โฆษกเอฟบีไอ บอกกับสื่อเจ้านี้
เอฟบีไอซึ่งถูกร้องขอความช่วยเหลือในการสืบสวนนี้ได้ตรวจสอบที่เกิดเหตุระเบิดและการทดสอบร่องรอยทางเคมีแล้ว
มัลดีฟส์ถูกนานาชาติวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักจากการที่ทางการสั่งจำคุก โมฮาเหม็ด นาชีด ผู้นำจากการเลือกตั้งคนแรกของประเทศเมื่อเดือนมีนาคม ภายหลังการพิจารณาคดีอย่างเร่งรัดที่องค์การสหประชาชาติระบุว่ามีช่องโหว่อย่างร้ายแรง
ยามีน ซึ่งขึ้นสู่อำนาจในเดือนพฤศจิกายนปี 2013 หลังการเลือกตั้งอันเป็นที่ถกเถียง กำลังเผชิญกับเสียงติเตียนจากนานาชาติในเรื่องการกวาดล้างผู้เห็นต่างทางการเมือง รวมถึงบรรดาผู้สนับสนุนของนาชีด ผู้นำฝ่ายค้าน