เอเอฟพี - นายกรัฐมนตรี ชินโซ อาเบะ กับบรรดาผู้นำธุรกิจของญี่ปุ่นจะเดินทางกลับประเทศช่วงค่ำวันพุธ (28 ต.ค.) หลังเสร็จสิ้นการทัวร์หลายประเทศแถบเอเชียกลางเป็นเวลา 1 สัปดาห์ โดยมีการทำข้อตกลงทางธุรกิจระหว่างทัวร์รวมมูลค่ามากกว่า 26 พันล้านดอลลาร์
อาเบะพร้อมกับบรรดาตัวแทนของธุรกิจญี่ปุ่นประมาณ 50 บริษัท ได้ไปเยือน 5 ประเทศในแถบเอเชียกลาง เพื่อยกระดับความสัมพันธ์ทางธุรกิจภายในภูมิภาคที่มีคู่แข่งสำคัญอย่างจีนกำลังเข้าไปลงทุน
"ผมเป็นนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนแรกที่ไปเยือน 5 ประเทศแถบเอเชียกลางในการเดินทางครั้งเดียว" อาเบะ ระบุขณะอยู่ในคาซัคสถาน ประเทศสุดท้ายที่เขาไปเยือนในการทัวร์ครั้งนี้ ส่วนอีก 4 ประเทศที่อาเบะไปเยือนนั้นได้แก่ อุซเบกิสถาน เติร์กเมนิสถาน ทาจิกิสถาน คีร์กีซสถาน
"ผมเชื่อว่าที่นั่นมีศักยภาพต่ออนาคตของญี่ปุ่นและเอเชียกลาง" ผู้นำรัฐบาลญี่ปุ่น กล่าว
ในระหว่างที่อยู่ในประเทศผู้ส่งออกก๊าซรายสำคัญอย่างเติร์กเมนิสถาน อาเบะได้ลงนามในข้อตกลงที่มีมูลค่า 2.2 ล้านล้านเยน สำหรับการก่อสร้างโรงงานที่เกี่ยวกับแหล่งก๊าซธรรมชาติหลายแห่ง รวมถึงข้อตกลงธุรกิจอื่นๆ
ที่อุซเบกิสถานเมื่อวันอาทิตย์ อาเบะได้ลงนามในข้อตกลงหลายฉบับที่มีมูลค่า 8.5 พันล้านดอลลาร์ เกี่ยวกับธุรกิจพลังงาน การคมนาคมขนส่งและการสื่อสาร
ผู้นำรัฐบาลญี่ปุ่นยังได้ให้สัญญาว่าจะให้การช่วยเหลือกว่า 100 ล้านดอลลาร์แก่คีร์กีซสถาน กับเงินอีกก้อนที่น้อยกว่านั้นให้แก่ทาจิกิสถาน สองประเทศที่ยากจนที่สุดในแถบเอเชียกลาง
จีน ซึ่งเป็นคู่แข่งสำคัญของญี่ปุ่น ได้หาทางที่จะสานสัมพันธ์กับภูมิภาคนั้นผ่านธนาคารเพื่อการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐาน (เอไอไอบี) ขณะที่อาเบะให้คำมั่นว่าจะเพิ่มมูลค่าการลงทุนด้านโครงสร้างพื้นฐานของบรรดาบริษัทญี่ปุ่นทั่วโลก ซึ่งรวมถึงในเอเชียกลาง ให้อยู่ที่ตัวเลข 30 ล้านล้านเยน ภายในปี 2020