เอเอฟพี – สำนักงานเพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติเปิดเผยเมื่อวันอังคาร (27) ว่า จนถึงตอนนี้ในปีนี้มีผู้ลี้ภัยและผู้อพยพขึ้นชายฝั่งทะเลเมอร์ดิเตอร์เรเนียนของยุโรปแล้วกว่า 700,000 คน ท่ามกลางวิกฤตผู้อพยพครั้งเลวร้ายที่สุดของทวีปนี้นับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2
ในปีนี้มีผู้ลี้ภัยสงครามและความยากจนมาถึงชายฝั่งของกรีซแล้วราว 562,355 คน ขณะที่ราว 140,00 คนขึ้นฝั่งที่อิตาลี
เมื่อนับรวมกับจำนวนผู้ที่ขึ้นชายฝั่งของประเทศอื่นๆ ในยุโรปแล้ว ยอดรวมของผู้ที่เหยียบขึ้นชายฝั่งของทวีปนี้จะอยู่ที่กว่า 705,200 ราย ในจำนวนนี้มีเด็กรวมอยู่ด้วยร้อยละ 20 ยูเอ็นระบุ
มีอยู่ทั้งสิ้น 3,210 คนที่เสียชีวิตหรือหายสาบสูญระหว่างเดินทางผจญอันตราย และกว่าครึ่งของจำนวนผู้ที่มาถึงในปีนี้มาจากซีเรีย , 18 เปอร์เซ็นต์มาจากอัฟกานิสถาน และ 6 เปอร์เซ็นต์มาจากอิรัก
พวกเขาเหล่านี้ 85 เปอร์เซ็นต์มาจากสิ่งที่สำนักงานข้าหลวงใหญ่เพื่อผู้ลี้ภัยแห่งสหประชาชาติ (UNHCR) เรียกว่าเป็นประเทศผลิตผู้ลี้ภัยหลัก 10 แห่งของโลก
ในขณะที่ยุโรปกำลังดิ้นรนเพื่อจัดการกับวิกฤตนี้ จำนวนการหลั่งไหลดังกล่าวไม่ได้แสดงให้เห็นถึงสัญญานของการลดลงเลย ทั้งๆ ที่สภาพอากาศกำลังแย่ลง ทั้งนี้อ้างจากองค์การระหว่างประเทศเพื่อการโยกย้ายถิ่นฐาน (IOM) ซึ่งรายงานว่ามีผู้อพยพมาถึงกรีซ 5,239 คนเมื่อวันเสาร์ (24) และ 4,199 คนเมื่อวันอาทิตย์ (25)
“เนื่องจากสภาพอากาศที่เลวร้ายและทะเลที่มีพายุรุนแรง เจ้าหน้าที่ IOM รายงานว่า การติดตามเรือผู้อพยพกลางทะเลเริ่มทำได้ยากลำบากยิ่งขึ้นและมีการใช้การลาดตระเวนทางอากาศมากขึ้น” IOM ระบุในถ้อยแถลงเมื่อวานนี้ (27)