เอเจนซีส์ - หลังจากในสัปดาห์ที่ผ่านมา รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน ประกาศไม่ลงสมัครรับเลือกแต่งประธานาธิบดีสหรัฐฯ 2016 ล่าสุดในวันอาทิตย์(25)ที่ผ่านมา ไบเดน พร้อมภรรยาควงแขนเปิดใจกับรายการ 60 นาทีช่อง CBS ของสหรัฐฯ ยอมรับว่า ยังคงรู้สึกเศร้ากับการจากไปอย่างกะทันหันของ โบ ไบเดน บุตรชาย และอีกทั้งไม่คิดว่าจะลงชิงสมัครตัวแทนเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทั้งๆที่รู้ว่าไม่มีโอกาสชนะ
NBC News สื่อสหรัฐฯรายงานเมื่อวานนี้(26)ว่า ในรายการ 60นาทีของสถานีโทรทัศน์สหรัฐฯ CBS ที่ออกอากาศในวันอาทิตย์(25)ล่าสุด รองประธานาธิบดีสหรัฐฯ โจ ไบเดน พร้อมภรรยา จิล ไบเดน ออกมาเปิดใจให้สัมภาษณ์ในประเด็นสำคัญต่างๆ ซึ่งหนึ่งในนั้นคือเบื้องหลังการตัดสินใจประกาศไม่ลงรับสมัครชิงตำแหน่งประธานาธิบดีสหรัฐฯปี 2016 ที่มีคู่แข่งคนสำคัญคือ อดีตรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯ ฮิลลารี คลินตัน
“ผมได้เคยพูดไว้ตั้งแต่แรกแล้วว่า ทางครอบครัวจะยังสามารถทำใจได้มากน้อยแค่ในกับการสูญเสียโบในเวลาจำกัดที่กำลังจะหมดลงไปในไม่ช้า” โจ ไบเดน กล่าว และเสริมต่อว่า “ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ทางครอบครัวไม่สามารถควบคุมได้”
และโนราห์ โอโดเนล(Norah O'Donnell) ผู้จัดรายการ 60 นาทียังถามต่อว่า “ในการที่คุณประกาศไม่ลงรับสมัครการเลือกตั้งเป็นเพราะ คิดแล้วว่าไม่สามารถชนะได้ หรือเป็นเพราะไม่ต้องการที่จะลง”
จากคำถามนี้ทำให้ไบเดนตอบคำถามอย่างตรงไปตรงมากับผู้สื่อข่าว CBS ว่า “ไม่คิดว่าจะเอาชนะได้ เพราะผมขอพูดอย่างตรงไปตรงมาว่า หากผมคิดว่าเราสามารถทำแคมเปญการเมืองหาเสียงเลือกตั้งที่ดีที่สุดสำหรับผู้สนับสนุน และประชาชนชาวอเมริกันพึงได้รับแล้ว ผมคงไม่ลังเลที่จะลงรับสมัครการเลือกตั้ง”
ซึ่งจากคำตอบนี้ทำให้โอโดเนลถึงกับกล่าวว่า “ดิฉันเชื่อว่าโจต้องเป็นประธานาธิบดีที่ดีอย่างแน่นอน”
แต่ทว่า อย่างไรก็ตามสำหรับรองประธานาธิบดีสหรัฐฯในเวลานี้ ครอบครัวต้องมาก่อน โดยไบเดนกล่าวต่อว่า “ไม่ว่าอะไรที่ผมกำลังเผชิญอยู่ในเวลานี้ ไม่ว่าจะเป็นด้านจิตใจ หรืออะไรก็ตามแต่...ซึ่งสำหรับผม...ผมสามารถควบคุมได้”
อย่างไรก็ตาม ในการให้สัมภาษณ์ล่าสุดในวันอาทิตย์(25) ถึงแม้ว่าไบเดนจะยืนยันอย่างหนักแน่นจะไม่ลงชิงตำแหน่งทางการเมืองอีก แต่ยังไม่ได้หมายความว่าไบเดนจะเลิกเล่นการเมือง ซึ่งเขาย้ำว่า “ผมยังคงต้องการให้ตัวเองยังคงมีบทบาททางนโยบายในพรรคเดโมแครต และไม่ต้องการให้สิ่งที่บารัคและผมได้สร้างไว้ต้องหายไป” ไบเดนกล่าว
และในการตอบคำถามของไบเดนยังพาดพิงไปถึง ฮิลลารี คลินตัน ตัวเต็งผู้สมัครแถวหน้าของพรรคเดโมแครตในเวลานี้ และอดีตเพื่อนร่วมงานของไบเดนในชุดรัฐบาลโอบามาสมัยแรก โดยไบเดนได้ให้ความเห็นถึงความสามารถในการจูงใจของคลินตันบนเวทีดีเบตว่า “ไม่ต้องเป็นที่สงสัยว่า ฮิลลารีสามารถชนะใจชาวอเมริกันในเวทีดีเบตได้อย่างไม่ยากเย็น ผมรู้จักฮิลลารีดี ผมเคยดีเบตกับเธอในระดับประเทศมาแล้วถึง 13 ครั้งด้วยกัน ผมรู้ว่าเธอเป็นอย่างไร และผมรู้ว่าผมเป็นอย่างไรเช่นกัน ซึ่งในการดีเบตรอบแรกที่ผ่านมา ฮิลราลีคุมเกมส์ได้เป็นอย่างดี และที่ผ่านมาตลอด ผมบอกกับทุกคนว่า ผมชอบฮิลลารี เราทำงานเข้าขากันดี แต่เหตุผลเดียวที่ทำให้ผมมีแนวคิดที่จะลงชิงตำแหน่งคือ ผมคิดว่าผมสามารถทำหน้าที่ได้ดีกว่านี้จากตำแหน่งนั้น และดีกว่าคนอื่นๆด้วย ซึ่งเป็นเหตุผลที่ผมต้องการลงสมัคร ผมไม่ได้ลงเพราะแข่งกับฮิลลารี”
นอกจากนี้ โจ ไบเดน ยังกล่าวโจมตีว่าที่ประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกัน เช่น โดนัลด์ ทรัมป์ ว่า “ผมรู้สึกผิดหวังกับโดนัลด์ ทรัมป์ จริงๆ ผมรู้ว่าคนประเภททำงานด้วยปากเป็นอย่างไร และนั่นเป็นทั้งหมดที่ทรัมป์มี ซึ่งไม่คิดว่าจะเป็นผลดีต่อตัวเขาเท่าใดนัก และผมคิดอย่างจริงจังว่าทรัมป์ควรจะเปลี่ยนจุดยืนในหลายเรื่องใหม่ โดยเฉพาะปัญหาการอพยพเข้าเมืองที่ทรัมป์โจมตีมาตลอด เพราะรากฐานอเมริกาคือการโยกย้ายถิ่นฐาน ผมหวังจากใจจริงว่า เขาจะไม่เชื่อเช่นนั้นจริงๆ”
และรองประธานาธิบดีสหรัฐฯ ที่ในอเมริกามักเรียกตำแหน่งนี้ว่าวีป(Veep)ยังให้ความเห็นถึงพอล ไรอัน อดีตคู่ชิงรองประธานาธิบดีสหรัฐฯจากพรรครีพับลิกันคู่กับมิตต์ รอมนีย์ในปี 2012ว่า “ผมคิดว่าเราจะสามารถขับเคลื่อนการทำงานของสภาคองเกรสได้อย่างจริงจังในยุคใหม่ที่จะถึงนี้ โดยเฉพาะเมื่ออยู่ในมือของพอล ไรอัน เพราะเขาเป็นคนดี ซึ่งเขาทำงานอย่างหนักในร่างกฎหมายการเงินตามอาเจนดาของพรรครีพับลิกัน แต่ยังคงมีแนวคิดต้องการทำให้หน่วยงานสหรัฐฯยังคงเปิดหน่วยงานได้โดยไม่ต้องมีวิกฤตชัตดาวน์ และไรอันรู้ดีว่ารัฐบาลสหรัฐฯจะไม่สามารถทำงานได้โดยปราศจากการมีมติความเห็นร่วมกัน ซึ่งนั่นเป็นสิ่งที่ไรอันต้องการ”