เอเจนซีส์ – บรรดาเกษตรกรและผู้ผลิตเนื้อผ่านกระบวนการต่างแสดงความหนักใจถึงผลกระทบที่จะตามมาต่อยอดขายสินค้า หลังจากองค์การอนามัยโลก WHO มีกำหนดจะเปิดแถลงรายงานฉบับใหม่ที่ระบุว่า เนื้อสัตว์ผ่านกรรมวิธีต่างๆ เช่น เบคอน ฮอทด็อก แฮม และเนื้อสำเร็จรูปในแฮมเบอร์เกอร์ อาจทำให้ผู้บริโภคที่รับประทานเป็นจำนวนมากเสี่ยงที่จะเกิดโรคมะเร็งได้เช่นเดียวกันกับการบริโภค เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อแกะ ที่ถูกจัดอยู่ในกลุ่มเนื้อแดง
ดิอินดีเพนเดนต์ สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(23)ว่า แหล่งข่าวได้เปิดเผยกับเดลีเมล สื่ออังกฤษว่า การเปิดเผยรายงานฉบับใหม่ขององค์การอนามัยโลก WHO จะเกิดขึ้นในวันจันทร์(26) ที่ได้จัดให้ “เนื้อสัตว์ผ่านกรรมวิธี” มีอันตรายเทียบเท่ากับบุหรี่ สุรา และแร่ใยหิน ซึ่งทั้งหมดถูกจัดอยู่ในหมวดหมู่เดียวกัน
ซึ่งเว็บไซต์ข้อมูลสาธารณสุขอังกฤษ NHS Choices ชี้ว่า “มีหลักฐานที่ทำให้เชื่อได้ว่ามีความเชื่อมโยงระหว่างการรับประทานเนื้อแดง (เนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อแกะ)และเนื้อสัตว์ผ่านกรรมวิธี และความเสี่ยงการเกิดมะเร็งลำไส้”
และยังเสริมต่อว่า “สำหรับผู้บริโภคที่รับประทานเนื้อสัตว์ประเภทเหล่านี้เป็นจำนวนมาก จะมีความเสี่ยงสูงในการเกิดโรคมะเร็งลำไส้มากกว่าเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่รับประทานอาหารประเภทเดียวกันนี้ในจำนวนที่น้อยกว่า”
อย่างไรก็ตาม NHS Choices ยืนยันว่า “เนื้อแดงเหล่านี้ยังคงมีประโยชน์มากพอทางโภชนาการได้ และเนื้อแดงเหล่านี้ยังเป็นแหล่งชั้นดีของโปรตีน วิตามิน รวมไปถึงแร่ธาตุ เช่น เหล็ก และสังกะสี”
ด้านมูลนิธิการวิจัยโรคมะเร็งนานาชาติ (The World Cancer Research Fund) แถลงว่า “มีหลักฐานเป็นที่ประจักษ์ว่า การบริโภคอาหารประเภทเนื้อแดงและเนื้อสัตว์ผ่านกรรมวิธีเป็นจำนวนมากนั้นเสี่ยงต่อการป่วยด้วยโรคมะเร็งลำไส้”
และการเปิดเผยรายงานฉบับล่าสุดของ WHO ที่จะมีขึ้นไนวันจันทร์(26)ที่จะถึงนี้ สร้างความวิตกเป็นอย่างมากต่อเกษตรกรปศุสัตว์ และบรรดายักษ์ใหญ่ผลิตอาหารเนื้อสัตว์ผ่านกรรมวิธี รวมไปถึงอุตสาหกรรมผลิตเนื้อแดง ถึงยอดขายที่จะตามมาหลังจากนั้น หากองค์การอนามัยลงจัดให้เบคอน ฮอทด็อก หมูแฮม ไส้กรอกอิตาเลียน และอื่นๆ เป็นสารก่อให้เกิดโรคมะเร็ง
ซึ่งก่อนหน้านี้รัฐบาลอังกฤษเคยออกประกาศเตือนภัยในปี 2011 ถึงการบริโภคเนื้อแดงมากกเกินไป โดยแนะนำให้ผู้ใหญ่สามารถบริโภคได้ไม่เกิน 70 กรัมต่อวัน