รอยเตอร์ - อินโดนีเซียกำลังเตรียมเรือรบสำหรับไว้เป็นทางเลือกสุดท้ายที่จะอพยพเด็กและคนอื่นๆ ที่ทนทุกข์จากการสูดดมควันไฟจากการทำไร่เลื่อนลอย รัฐมนตรีคนหนึ่งกล่าวในวันนี้ (23 ต.ค.) ในขณะที่ประเทศนี้พยายามควบคุมไฟป่าที่คาดว่าจะคงอยู่ต่อไปอีกหลายสัปดาห์
เป็นเวลาหลายปีแล้วที่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ประสบกับปัญหาหมอกควันประจำปีที่มีสาเหตุมาจากการเคลียร์พื้นที่ป่าและพื้นที่ดินพรุทั่วทั้งอินโดนีเซียซึ่งถูกกดดันมากขึ้นเรื่อยๆ ให้หยุดปัญหานี้ แต่จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีความคืบหน้า
ไฟป่าในปีนี้ได้รับการหนุนเนืองจากสภาพอากาศที่แห้งแล้งมากขึ้นอันเป็นผลมาจากปรากฏการณ์ทางสภาพอากาศเอลนีโญ และทำให้สภาวะมลพิษทางอากาศทั่วทั้งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ขึ้นสู่ระดับอันตราย จนหลายโรงเรียนต้องปิดและหลายเที่ยวบินถูกยกเลิก
“เรากำลังมองหาสถานที่สำหรับอพยพเด็ก หากมีความจำเป็น” ลูฮุต ปันด์ไจตัน รัฐมนตรีกระทรวงประสานงานด้านความมั่นคงบอกกับผู้สื่อข่าว โดยอ้างถึงแผนการที่จะเตรียมเรือรบ 6 ลำและเรือเฟอร์รีของทางการ 2 ลำ
อย่างไรก็ตาม เรือเหล่านี้จะถูกใช้เฉพาะหากว่าความพยายามอื่นๆ รวมถึงการย้ายผู้อยู่อาศัยไปยังที่ทำการรัฐบาลที่มีเครื่องกรองอากาศ ไม่ประสบผลสำเร็จ ปันด์ไจตัน กล่าว
อดีตนายพลรายนี้ซึ่งประธานาธิบดีโจโค วิโดโด มอบหมายให้ดูแลการตอบสนองปัญหาหมอกควัน กล่าวว่า ประเทศนี้กำลังจัดการกับปัญหานี้ในฐานะภัยพิบัติแห่งชาติแต่ยังไม่ได้ประกาศเป็นสถานการณ์ฉุกเฉินแห่งชาติ
เมื่อต้นเดือนนี้แดนอิเหนาได้ร้องขอให้หลายประเทศรวมถึงเพื่อนบ้านอย่างสิงคโปร์และมาเลเซียแม้กระทั่งรัสเซียให้ส่งความช่วยเหลือ เครื่องไม้เครื่องมือและบุคลากรมาช่วยดับไฟ
ด้วยความสำเร็จของเครื่องบินทิ้งระเบิดน้ำบีอี 200 ของรัสเซีย ปันด์ไจตันระบุว่า เขาได้ร้องขออากาศยานชนิดเดียวกันนี้จากแคนาดา สหรัฐฯ และฝรั่งเศส
ผู้เชี่ยวชาญระบุว่า ไฟกำลังลุกลามไปยังพื้นที่ใหม่ๆ เช่น จังหวัดปาปัว และไม่มีแนวโน้มว่าจะดับลงจนถึงปีหน้า
วิโดโดกล่าวว่า จะไม่มีการออกใบอนุญาตใหม่ให้กับบริษัทเกษตรกรรมที่จะพัฒนาพื้นที่ดินพรุ และว่ารัฐบาลจะพยายามฟื้นฟูและทำให้พื้นที่ดินพรุที่มักได้รับผลกระทบจากไฟป่ากลับมาชุ่มชื้นอีกครั้ง
สายการบินของรัฐอย่างการูดาระบุว่าปัญหาหมอกคันได้ทำให้บริษัทสุญเสียกำไรและค่าใช้จ่ายอื่นๆ ไปแล้วราว 8 ล้านดอลลาร์ โดยเมื่อเดือนที่แล้วเพียงเดือนเดียวมีผู้โดยสารยกเลิกเที่ยวบินถึง 120,000 คน