เอเอฟพี – นักการทูตระดับสูงจากรัสเซีย สหรัฐฯ ซาอุดีอาระเบีย และตุรกีจะจัดการประชุมว่าด้วยเรื่องสงครามในซีเรียในวันนี้ (23) หลังจากที่มอสโกกระโจนลงสู่ใจกลางของความขัดแย้งนี้ด้วยการดำเนินปฏิบัติการทิ้งระเบิดเพื่อสนับสนุนประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด
นักการทูตจากวอชิงตัน ริยาดห์ และอังการา ซึ่งล้วนหนุนหลังกลุ่มต่อต้านอัสซาด หวังจะหยั่งความคิดเห็นของ เซอร์เกย์ ลาฟรอฟ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศรัสเซียในกรุงเวียนนา หลังจากที่อัสซาดทำเซอร์ไพรส์ไปเยือนมอสโคเพื่อพบกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ในสัปดาห์นี้
เมื่อวันที่ 30 กันยายน รัสเซียได้เปิดฉากการโจมตีทางอากาศในซีเรีย ซึ่งได้เปลี่ยนพลวัตของสงครามนาน 4 ปีครึ่งนี้ ทำให้กองกำลังรัฐบาลที่เหนื่อยอ่อนจากการต่อสู้กลับมาเป็นฝ่ายรุกและลดทอนความสำคัญของกลุ่มพันธมิตรของสหรัฐฯ ที่ทิ้งระเบิดใส่กลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส)
สหรัฐฯและพันธมิตรในภูมิภาคนี้ประณามการโจมตีของรัสเซียอย่างรุนแรง และยืนยันว่ามอสโคไม่ได้กำลังพุ่งเป้าที่กลุ่มไอเอสเป็นหลักตามคำกล่าวอ้าง แต่เป็นกลุ่มอื่นๆ ที่ต่อสู้กับรัฐบาลในดามัสกัส และว่า การแทรกแซงของเครมลินรังแต่จะทำให้การสู้รบนี้ยืดเยื้อเท่านั้น
ก่อนการประชุมครั้งนี้ที่เมืองหลวงออสเตรีย ชะตากรรมของอัสซาดยังคงเป็นอุปสรรคใหญ่ และแทบไม่เหลือความหวังว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงใดๆ แล้ว หลังจากหลายปีของความล้มเหลวในการหยุดยั้งการนองเลือดในซีเรีย
วอชิงตันและพันธมิตรในภูมิภาคนี้ยืนกรานมาโดยตลอดว่าอัสซาดจะต้องออกไปเพื่อให้มีโอกาสหาทางออกทางการเมืองให้กับการสู้รบที่คร่าชีวิตคนกว่า 250,000 รายแล้ว แต่มอสโกระบุว่า พวกเขาต้องช่วยอัสซาดปราบกลุ่มไอเอสและกลุ่มก่อการร้ายอื่นๆ ก่อน ถึงจะเริ่มคุยเรื่องการปฏิรูปใดๆ ได้
“เป้าหมายของสหรัฐฯ คือเอาอัสซาดออกไป เป้าหมายของเราคือเอาชนะลัทธิก่อการร้าย ต่อสู้กับการก่อการร้าย และช่วยประธานาธิบดีอัสซาดอ้างชัยชนะเหนือการก่อการร้าย” ปูตินกล่าวเมื่อวานนี้ (22) ในเมืองตากอากาศโซชิริมทะเลดำ
“หลังจากนั้นเราถึงสามารถสร้างสภาวะสำหรับการเริ่มต้น และผมว่าคาดหวังถึงการบรรลุข้อสรุปของกระบวนการทางการเมืองเพื่อหาทางออก”
ในขณะเดียวกัน จอห์น เคร์รี รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศสหรัฐฯ กล่าวในกรุงเบอร์ลินว่า ขณะที่ทุกฝ่ายต่างเห็นพ้องถึงความจำเป็นที่จะต้องหาทางออกทางการเมืองและต่อสู้กับกลุ่มไอเอสเท่านั้น “แต่สิ่งหนึ่งกำลังขวางเส้นทางนี้ บุคคลหนึ่งที่ชื่อว่าอัสซาด หรือบาชาร์ อัล-อัสซาด”
การเยือนมอสโกอย่างน่าประหลาดใจของอัสซาดเมื่อวันอังคาร (20) ซึ่งเป็นการเยือนต่างประเทศครั้งแรกของเขานับตั้งแต่ความขัดแย้งซีเรียเริ่มขึ้นในปี 2011 ได้ทำให้ตอนนี้เครมลินอยู่ในฐานะตัวเชื่อมประสานสำคัญกับผู้นำรายนี้
ปูตินซึ่งถูกตะวันตกโดดเดียวเป็นเวลา 15 เดือนจากวิกฤตยูเครน ได้ดำเนินความพยายามทางการทูตอย่างรวดเร็วหลังจากการเยือนของพันธมิตรเก่าแก่ของมอสโกรายนี้ โดยได้โทรศัพท์หาผู้นำของซาอุดีอาระเบีย ตุรกี จอร์แดน และอียิปต์
ในขณะที่ทุกฝ่ายดูเหมือนว่าจะปกป้องจุดยืนของตนเอง นักวิเคราะห์ระบุว่าฝ่ายต่อต้านอัสซาดบางรายกลับดูเหมือนว่าจะมีท่าทีที่อ่อนลงและยอมรับว่าอัสซาดอาจยังคงอยู่ในอำนาจต่อไปอีกสักพัก ขณะที่มอสโคไม่ได้ดูเหมือนว่าจะอยากให้อัสซาดอยู่ในอำนาจต่อไปนานนัก
พันธมิตรสำคัญอีกรายหนึ่งของอัสซาดที่จะไม่ได้อยู่ในการประชุมครั้งนี้ที่กรุงเวียนนาเพราะการคัดค้านจากซาอุดีอาระเบียคืออิหร่าน แต่กระทั่งเจ้าหน้าที่ในเตหะรานก็ยังกล่าวว่า พวกเขาจะไม่พยายามทำให้อัสซาดอยู่ในอำนาจ “ตลอดไป”