เอเจนซีส์ - แจ็กเควอลิน ซัตตัน (Jacquelin Sutton) พลเมืองอังกฤษวัย 50 ปี อดีตนักข่าวบีบีซี และปัจจุบันผู้อำนวยการรักษาการสถาบันเวิลด์แอนด์พีซ ถูกพบเป็นศพแขวนคอตายด้วยเชือกผูกรองเท้าของตัวเองในห้องน้ำสนามบินตุรกีในวันเสาร์ (17 ต.ค.) หลังจากพลาดเที่ยวบินที่จะเดินทางต่อไปยังเมืองเออร์บิล (Erbil) ของอิรัก โดยทางบริษัทสายการบินปฎิเสธออกตั๋วโดยสารเที่ยวบินให้ใหม่ และทำให้เธอเครียดจัดเพราะไม่มีเงินมากพอที่จะซื้อตัวโดยสารเที่ยวต่อไปได้ แต่ทว่าคนรู้จักอดีตนักข่าวสาวอ้างว่าเป็นเหตุฆาตกรรมแน่นอน
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายวันนี้ (19) ว่า คนรู้จักของแจ็กเควอลิน ซัตตัน (Jacquelin Sutton) พลเมืองอังกฤษวัย 50 ปี อดีตนักข่าวบีบีซี ต่างไม่เชื่อว่าซัตตันจะแขวนคอตัวเองเนื่องมาจากความเครียดที่ไม่สามารถมีเงินมากพอเพื่อจะซื้อตั๋วเครื่องบินเที่ยวบินต่อไปเมืองเออร์บิล เมืองหลวงของชาวเคิร์ดในอิรักได้
สื่ออังกฤษรายงานว่า ซัตตอนเดินทางออกจากท่าอากาศยานลอนดอนฮีตโทรว์ด้วยเที่ยวบิน TK-1986 ของสายการบินเตอร์กิชแอร์ไลน์ส และเดินทางมาถึงท่าอากาศยานนานาชาติอะตาเติร์ก (Ataturk) ในเวลา 22.00 น.ตามเวลาท้องถิ่น เพื่อต่อเครื่องบินในไฟลต์ถัดไปเพื่อเดินทางไปยังเมืองเออร์บิลในเวลาเที่ยงคืน
ทั้งนี้มีรายงานว่า ซัตตันมีอาการเครียดอย่างเห็นได้ชัดเมื่อพบว่าเธอพลาดเที่ยวบินต่อ และถูกปฏิเสธที่จะออกตั๋วโดยสารใหม่ โดยทางสายการบินได้กล่าวกับซัตตันว่าเธอต้องชำระเงินเพื่อซื้อตั๋วเดินทางใหม่เท่านั้น และหลังจากนั้นไม่นานซัตตันถูกพบเป็นศพแขวนคอตายในห้องน้ำของสนามบินด้วยเชือกผูกรองเท้าตัวเอง โดยผู้โดยสารชาวรัสเซีย 3 คนเป็นผู้รายงานการค้นพบครั้งนี้
แต่อย่างไรก็ตาม อดีตเพื่อนร่วมงานนักข่าวชาวอิรัก มาซิน เอเลียส (Mazin Elias)ไม่เชื่อว่าซัตตันจะฆ่าตัวตาย โดยเขาเชื่อว่าต้องเป็นเหตุฆาตกรรมอย่างไม่ต้องสงสัย และยังคิดว่าไม่มีทางเป็นไปได้ที่ซัตตันจะพลาดเที่ยวบินต่อ
“ไม่ เป็นไปไม่ได้ เราไม่ได้กำลังพูดถึงเด็กหญิงอ่อนประสบการณ์ แต่เรากำลังพูดถึงผู้หญิงบรรลุนิติภาวะที่มากประสบการณ์คนหนึ่ง และดำรงตำแหน่งเป็นถึงผู้อำนวยการใหญ่” เอเลียสกล่าว
คริสเตียน เบลาเออร์ (Christian Bleuer) เพื่อนอีกคนของซัตตัน ได้เขียนความเห็นผ่านทวีตเตอร์ถึงการเสียชีวิตอย่างมีเงื่อนงำของอดีตนักข่าวบีบีซีว่า “ถือว่าเป็นหญิงแกร่งที่สุดเท่าที่เคยพบมา แต่ตำรวจตุรกีบอกว่าซัตตันเสียชีวิตด้วยการฆ่าตัวตายเพราะพลาดเที่ยวบินอย่างงั้นหรือ?”
เบลาเออร์ยังให้ความเห็นต่อว่า “ผมไม่ได้จะอ้างอิงทฤษฎีสมคบคิดแต่ว่า ถ้าตำรวจตุรกีบอกว่า กล้องวงจรปิดที่ท่าอากาศยานนานาชาติอะตาเติร์กเสีย ซัตตันถูกฆาตกรรมแน่นอน”
เดลีเมลรายงานเพิ่มเติมว่า ล่าสุดซัตตันดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการรักษาการในอิรักให้กับสถาบันเวิลด์แอนด์พีซ ซึ่งเป็นหน่วยงานสนับสนุนการทำงานของนักข่าวและนักเคลื่อนไหวในภาคพื้นที่มีความขัดแย้งสูง
และนอกจากนี้ยังมีรายงานว่า ซัตตันกำลังศึกษาต่อในระดับปริญญาเอกที่สถาบันศึกษาอาหรับและอิสลามของมหาวิทยาลัยแห่งชาติออสเตรเลียในกรุงแคนเบอร์รา ออสเตรเลีย เป็นเวลาเกือบ 2 ปี
สื่ออังกฤษรายงานต่อว่า ซัตตันทำงานเป็นผู้ผลิตและกระจายเสียงให้แก่บีบีซีเวิลด์ ในช่วงปี 1998-2000 และยังเคยทำงานในองค์การสหประชาชาติ และในปัจจุบันนี้อาศัยในอพาร์ตเมนต์ส่วนตัวในเวสต์ลอนดอน
ด้านกระทรวงการต่างประเทศอังกฤษแถลงยืนยันในวันอาทิตย์ (18) ว่า ได้รับรายงานการเสียชีวิตของพลเมืองอังกฤษในตุรกีแล้ว และได้สั่งการให้มีการให้บริการด้านศุลกากรกับญาติผู้เสียชีวิต