xs
xsm
sm
md
lg

อดีตผู้ป่วย “เมอร์ส” เกาหลีใต้ถูกวินิจฉัยพบเชื้ออีกครั้ง หลังออกโรงพยาบาล

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: MGR Online


เอเอฟพี - ชายชาวเกาหลีใต้รายหนึ่งที่เชื่อว่าหายขาดจากโรคทางเดินหายใจตะวันออกกลาง (เมอร์ส) แล้วได้ถูกวินิจฉัยพบเชื้อไวรัสมรณะดังกล่าวอีกครั้งเมื่อวานนี้ (12 ต.ค.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเผยในวันนี้ (13)

การวินิจฉัยพบเชื้อดังกล่าวทลายความหวังของโซลที่จะได้รับการประกาศว่าปลอดจากโรคดังกล่าว ซึ่งได้ทำให้มีผู้ติดเชื้อ 186 ในเกาหลีใต้ ในจำนวนนี้เสียชีวิตไป 36 คน นับตั้งแต่มันระบาดในเดือนพฤษภาคม

มาตรฐานขององค์การอนามัยโลกกำหนดให้มีการรอดูผลเป็นเวลา 4 สัปดาห์หลังจากที่ผู้ป่วยเมอร์สคนสุดท้ายฟื้นตัวเต็มที่แล้ว ถึงจะประกาศได้ว่าการระบาดสิ้นสุดลงอย่างแน่นอนแล้ว

เชื้อไวรัสเมอร์สเชื่อว่ามีต้นกำเนิดจากอูฐในตะวันออกกลาง อาการของโรคนี้ประกอบด้วยมีไข้ ไอ และหายใจลำบาก

ชายวัย 35 ปีรายนี้ถูกวินิจฉัยครั้งแรกในเดือนพฤษภาคม และถูกปล่อยตัวจากโรงพยาบาลเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม หลังจากการทดสอบหาไวรัสชนิดนี้มีผลเป็นลบ 2 ครั้งติด

แต่เขาถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลอีกครั้งเมื่อวันอาทิตย์ (11) โดยมีไข้ และถูกวินิจฉัยพบเชื้อไวรัสเมอร์สเมื่อวันจันทร์ (12) กระทรวงสาธารณสุขระบุในถ้อยแถลง

เจ้าหน้าที่ระบุว่า แพทย์ตรวจพบยีนของไวรัสในระบบของเขา แต่ไม่อาจยืนยันว่าได้ว่านี่เป็นการติดเชื้อใหม่หรือเชื้อเดิมกำเริบอีกครั้ง

ทางการได้เร่งกักตัวคน 61 คนที่สัมผัสกับชายคนดังกล่าว ถึงแม้ผู้เชี่ยวชาญจะกล่าวว่าโอกาสที่โรคนี้จะแพร่กระจายจะมีอยู่น้อยมากก็ตามที

“มันยากที่จะพูดว่าเชื้อไวรัสดังกล่าวยังคงอยู่และเพิ่มจำนวนในร่างกายผู้ป่วยรายนี้” ศาสตราจารย์ คิม นัม-จุง จากมหาวิทยาลัยแห่งชาติกรุงโซลบอกกับผู้สื่อข่าว และเสริมว่า “แทบจะไม่มีโอกาสเลยที่ผู้ป่วยรายนี้จะแพร่เชื้อสู่คนอื่น”

ก่อนการวินิจฉัยเมื่อวันจันทร์ (12) ไม่ได้มีการรายงานว่ามีผู้ป่วยเมอร์สหรือผู้เสียชีวิตจากโรคนี้รายใหม่มาตั้งแต่เดือนกรกฎาคมแล้ว

เชื้อไวรัสชนิดนี้ซึ่งยังไม่มียารักษาหรือวัคซีนป้องกัน ถือว่ามีความอันตรายมากกว่าแต่ก็มีความสามารถในการแพร่เชื้อน้อยกว่าเชื้อไวรัส “ซาร์ส” หรือกลุ่มอาการทางเดินหายใจเฉียบพลันรุนแรง ที่ทำให้มีผู้เสียชีวิตหลายร้อยคนในเอเชียตะวันออกเมื่อปี 2003

เกาหลีใต้ซึ่งถูกติเตียนเรื่องการตอบสนองต่อการแพร่ระบาดดังกล่าวในเบื้องต้น ได้นำมาตรการกักโรคมาใช้อย่างกว้างขวาง ซึ่งทำให้ได้เห็นประชาชนเกือบ 17,000 ถูกจำกัดให้อยู่แต่ในบ้านของตนเอง

โรงเรียนหลายพันแห่งถูกสั่งปิดในช่วงวิกฤตสุดของการแพร่ระบาด ในขณะที่พ่อแม่หลายคนให้ลูกของพวกเขาอยู่แต่ในบ้าน

การแพร่ระบาดครั้งนั้นส่งผลเสียหายอย่างหนักต่อเศรษฐกิจของประเทศ ทำให้การใช้จ่ายเพื่อการอุปโภคบริโภคลดลงและส่งผลเสียหายมหาศาลต่อภาคการท่องเที่ยว

ธุรกิจท้องถิ่นต่างๆ รวมถึงห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และโรงภาพยนตร์มีรายงานว่ายอดขายตกลงฮวบฮาบ เนื่องจากผู้คนหลีกเลี่ยงสถานที่สาธารณะที่มีคนมาก


กำลังโหลดความคิดเห็น