เอเจนซีส์ - ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ระบุมีพลเมืองจากแดนหมีขาวและอดีตรัฐโซเวียตไปเข้าร่วมกับกลุ่มติดอาวุธรัฐอิสลาม (ไอเอส) ในซีเรียมากถึงราวๆ 7,000 คน สำนักข่าวอาร์ทีของรัสเซียรายงาน
ระหว่างการประชุมผู้นำเครือรัฐเอกราช (Commonwealth of Independent States - CIS) ซึ่งประกอบด้วยอดีตรัฐในสหภาพโซเวียตสิบกว่าประเทศที่คาซัคสถาน ปูตินชี้ว่า “เวลานี้มีนักรบจากรัสเซียและประเทศสมาชิกซีไอเอสอื่นๆ ประมาณ 5,000-7,000 คน กำลังต่อสู้เพื่อพวกไอเอส”
“แน่นอนว่าเราจะปล่อยให้พวกเขาเอาประสบการณ์ที่ได้รับในซีเรียมาใช้ในบ้านเกิดไม่ได้”
ผู้นำหมีขาวยังเอ่ยถึงปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียซึ่งพุ่งเป้าไปที่กลุ่มนักรบญิฮาดในซีเรีย และยืนยันว่า ภารกิจกวาดล้างไอเอสได้ผลคืบหน้าไปมาก
“ทหารของเราปฏิบัติภารกิจได้ผลเป็นที่น่าพอใจ โดยมีการส่งเครื่องบินไปทิ้งระเบิดโจมตีเป้าหมายตามที่ได้หารือกับรัฐบาลซีเรียล่วงหน้า ทำให้ศูนย์สั่งการและคลังอาวุธหลายสิบแห่ง ตลอดจนนักรบหลายร้อยคน และอาวุธยุทโธปกรณ์ของพวกก่อการร้าย ถูกทำลายย่อยยับ”
ปูตินย้ำว่า ปฏิบัติการทางทหารของรัสเซียมีกรอบเวลาที่แน่นอน และจะไม่ลากยาวเกินกว่าภารกิจของกองทัพซีเรียที่มอสโกให้การหนุนหลังอยู่
ปูตินกล่าวเสริมอีกว่า รัสเซียต้องการสร้าง “พันธมิตรขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ เพื่อต่อต้านกลุ่มหัวรุนแรงและก่อการร้าย โดยพร้อมที่จะประสานงานกับประเทศในภูมิภาคและหุ้นส่วนนานาชาติ เช่น ซาอุดีอาระเบีย สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จอร์แดน และอิสราเอล”
ผู้นำหมีขาวยืนยันว่า สิ่งที่รัสเซียกำลังทำอยู่ในซีเรียไม่ขัดต่อกฎหมายระหว่างประเทศ
“ปฏิบัติการของกองทัพอากาศรัสเซียซึ่งได้รับการสนับสนุนจากองเรือแคสเปียน เป็นไปตามหลักกฎหมายระหว่างประเทศ และมีความชอบธรรมอย่างเต็มที่ เพราะเกิดจากคำร้องขออย่างเป็นทางการจากประธานาธิบดีบาชาร์ อัล-อัสซาด”
ปูติน เตือนให้รัฐสมาชิกซีไอเอสเตรียมพร้อมรับมือกลุ่มก่อการร้ายที่อาจวางแผนแก้แค้น และให้มีการประสานงานอย่างเต็มที่ระหว่างสำนักงานต่อต้านก่อการร้ายแห่งชาติและหน่วยคุ้มกันชายแดนของแต่ละประเทศ
ผู้นำรัสเซียยังแสดงความเป็นห่วงสถานการณ์ความมั่นคงในอัฟกานิสถาน ซึ่งเขาระบุว่ากำลัง “เลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว”
“สถานการณ์กำลังเข้าสู่ภาวะวิกฤต กลุ่มก่อการร้ายหลายจำพวกเริ่มสั่งสมอิทธิพลเพิ่มขึ้น และประกาศที่จะขยายเครือข่ายออกไป... เป้าหมายหนึ่งของพวกเขาก็คือภูมิภาคเอเชียกลาง ดังนั้น เราจึงต้องเตรียมพร้อมรับมือเหตุไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้น”