เอเจนซีส์ – เมื่อวานนี้(14) ตำรวจอิสราเอลที่มาพร้อมอาวุธหนักบุกเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งหนึ่งติดกับป้ายจอดรถประจำทางใหญ่ในกลางเมืองเยรูซาเล็ม หลังได้รับรายงานหญิงชราวัย 70 ปีถูกชายชาวปาเลสไตน์ใช้มีดทำร้ายในขณะจับจ่ายสินค้า
เดลีเมล สื่ออังกฤษ รายงานเมื่อวานนี้(14)ว่า ระลอกความรุนแรงระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์ยังคงมีอย่างต่อเนื่องถึงแม้ว่าเทลอาวีฟจะออกคำสั่งให้เสริมกำลังทหารเข้ามาในพื้นที่เมืองเยรูซาเลม รวมไปถึงตั้งจุดตรวจในเมืองใกล้เคียงเพื่อหยุดความรุนแรงที่เกิดขึ้นจากฝีมือของชาวปาเลสไตน์
เพราะในวันพุธ(14)เจ้าหน้าที่ตำรวจอิสราเอลที่มาพร้อมปืนพกและปืนไรเฟิลบุกเข้าไปในซุปเปอร์มาร์เก็ตแห่งติดกับป้ายจอดรถประจำทางใหญ่ในกลางเมืองเยรูซาเล็ม หลังได้รับรายงานหญิงชราวัย 70 ปีถูกชายชาวปาเลสไตน์ใช้มีดทำร้ายในขณะจับจ่ายสินค้า
และหลังจากที่ทางกลุ่มเจ้าหน้าที่กระจายกำลังค้นทั่วทั้งร้าน ในท้ายที่สุดคนร้ายชาวอาหรับถูกวิสามัญคาที่ไม่นานหลังจากเกิดเหตุ
โดยมีภาพคนร้ายนอนจมกองเลือดเสียชีวิตในสภาพแทบไม่มีเสื้อผ้าปกคลุมใกล้ถังขยะบริเวณนอกร้านที่มีตำรวจยิวจำนวนหนึ่งยืนล้อมอยู่
และมีรายงานว่า หญิงชราวัย 70 ปี ไม่ได้รับอันตายถึงชีวิต ได้รับบาดเจ็บปานกลางเท่านั้น
สื่ออังกฤษรายงานเพิ่มเติมว่า ชายผู้ก่อเหตุที่คาดว่าจะเป็นชาวปาเลสไตน์ถือเป็นรายที่ 2 ที่ถูกเจ้าหน้าที่สังหารภายในวันเดียวกัน หลังจากก่อนหน้านี้มีชายชาวปาเลสไตน์อีกคนพยายามใช้มีดทำร้ายเจ้าหน้าที่อิสราเอล
โดยในรอบสัปดาห์นี้มีชาวยิวเสียชีวิตไปแล้วถึง 8 คน ในขณะที่ชาวปาเลสไตน์จำนวน 31 คนเสียชีวิต โดยทางตำรวจอิสราเอลชี้ว่า จากจำนวนผู้เสียชีวิตทั้งหมด มี 14 คนพยายามที่จะใช้มีดทำร้ายชาวยิว ในขณะที่อีก 17 คนเสียชีวิตเนื่องมาจากใช้ก้อนหินเป็นอาวุธปาใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ
นอกจากนี้ ในความพยายามแก้ปัญหาการก่อเหตุสะเทือนขวัญ นายกรัฐมนตรีอิสราเอล เบนจามิน เนทันยาฮู ได้ประกาศให้ทำลายบ้านของคนร้ายก่อเหตุ หลังจากที่อนุญาตให้ใช้กองกำลังปิดล้อมกับย่านต้องสงสัยในเยรูซาเล็มตะวันออกที่มีชาวอาหรับอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น