เอเอฟพี - ประธานาธิบดีอับดุลลา ยามีน แห่งมัลดีฟส์ สั่งปลดรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหมฐานปฏิบัติงานบกพร่อง หลังเกิดเหตุระเบิดบนเรือเร็วจนเกือบทำให้ผู้นำประเทศเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต โฆษกประธานาธิบดีแถลงวันนี้ (14 ต.ค.)
อิบรอฮีม มูอาซ อาลี โฆษกประธานาธิบดีมัลดีฟส์ ได้โพสต์ทวิตเตอร์เรื่องคำสั่งปลด มูซา อาลี ญาลีล ออกจากตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงกลาโหม แต่ไม่ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม ขณะที่กรุงมาเลก็ยังไม่ประกาศชื่อบุคคลที่จะมารับตำแหน่งนี้แทน
“ท่านประธานาธิบดีมีคำสั่งปลดรัฐมนตรีกลาโหม มูซา อาลี ญาลีล” ข้อความซึ่งถูกโพสต์เป็นภาษามัลดีฟส์ ระบุ
รัฐบาลมัลดีฟส์ได้สั่งเปลี่ยนตัวเจ้าหน้าที่ที่ระดับสูงหลายคน หลังเรือเร็วที่ประธานาธิบดียามีน และภริยาโดยสารมาจากสนามบินนานาชาติเกิดระเบิดขึ้น ขณะกำลังเข้าเทียบท่าที่กรุงมาเล เมื่อวันที่ 28 ก.ย.
ยามีน โชคดีที่ไม่ได้รับบาดเจ็บ ทว่าภริยาของเขากับผู้ติดตามอีก 2 คนบาดเจ็บเล็กน้อย
สัปดาห์ที่แล้ว รัฐมนตรีประจำทำเนียบประธานาธิบดีออกมาระบุว่า เหตุระเบิดที่เกิดขึ้น “น่าจะเป็นความพยายามมุ่งหมายต่อชีวิตของประธานาธิบดี”
ทางการมัลดีฟส์สั่งจับกุมเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 นายที่ขึ้นไปบนเรือของยามีน แต่ขณะนี้ก็ยังไม่มีคำแถลงที่ชัดเจนว่า ต้นตอของการระเบิดคืออะไร
ญาลีล เข้ารับตำแหน่งรัฐมนตรีกลาโหมเมื่อเดือนมกราคม แทนที่ โมฮาเหม็ด นาซิม ที่ถูกสั่งปลด และต่อมา ศาลพิพากษาให้จำคุก 11 ปีฐานลักลอบนำเข้าอาวุธ
ยามีน เป็นน้องชายแท้ๆ ของ เมามูน อับดุลกายูม อดีตผู้นำเผด็จการซึ่งผูกขาดอำนาจปกครองมัลดีฟส์อยู่นาน 3 ทศวรรษ จนถึงปี 2008
รัฐบาลยามีนถูกประณามอย่างรุนแรงทั้งในและต่างประเทศ หลัง โมฮาเหม็ด นาชีด ประธานาธิบดีคนแรกของมัลดีฟส์ที่มาจากการเลือกตั้งตามระบอบประชาธิปไตย ถูกตัดสินจำคุก 13 ปีในคดีก่อการร้ายเมื่อเดือนมีนาคม
คณะทำงานขององค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประกาศคำตัดสินเมื่อเดือนที่แล้วว่า นาชีด ถูกคุมขังโดยผิดกฎหมาย และเรียกร้องให้ทางการมัลดีฟส์คืนอิสรภาพให้แก่เขาทันที